| [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) | |
|
+6nutkey ★~『セイジ死神』~★ Sakura-Kung YunozukaE Prim_15505 Livingdead One 10 posters |
ผู้ตั้ง | ข้อความ |
---|
Livingdead One Rookie
จำนวนข้อความ : 63 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ทะเลทรายซาฮาร่า...
| เรื่อง: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Sun Mar 14, 2010 2:40 pm | |
| ก็เป็นโปรเจ๊คบอร์ดตัวเองที่จะเปิดในอนาคต(อันแสนไกล...)
เป็นบอร์ดComic-RPG คล้ายๆที่พ๊อคเก็ตหรือCFที่เราๆท่านๆเล่นกันอยู่นี่ละ
Settingจะเป็นแบบสงครามเจ้าแขกชิงอำนาจในโลกที่พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย
แล้วผู้เล่นจะเป็นคนจากมิติอื่นที่มาแสวงโชคในโลกนี้
โดยใช้ความขัดแย้งระหว่างแคว้นเป็นบันได้ทำจุดมุ่งหมายให้สำเร็จ
-updated- โฆษณาตัวใหม่ ในเรป2 ไปยลโล๊ด~
*หมายเหตุ* เรปต้นกระทู้จะเป็นสารบันเน้อ เรปต่อไปก็จะเรปนึงข้อมูลส่วนนึง(แอดมินไม่ว่ากันนะ)
แก้ไขล่าสุดโดย Livingdead One เมื่อ Wed Apr 27, 2011 10:09 pm, ทั้งหมด 5 ครั้ง | |
|
| |
Livingdead One Rookie
จำนวนข้อความ : 63 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ทะเลทรายซาฮาร่า...
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Sun Mar 14, 2010 2:43 pm | |
| โอ้ อัล-ซาฮารัน...!
อันผืนทรายกว้างใหญ่ไพศาล...
หาญธงใหญ่ครั้งหนึ่งปักบนเจ้า...
เล่าลือถึงนามอหัง...
แห่งเจ้าโลกหล้า “ฮารูนด์”
บัดนี้ลี้เล่า...?
แสงสุริยาลาลับ...
ดับดิ้นสิ้นตำนาน
นานาแคว้นกระสัน
หันศาสตรา แย่งชิง
"พอกันที...ระบบเดิมๆ" "พอกันที...กับการฟาดฟันด้วยฝีมืออย่างเดียว" "บัดนี้ ยุคใหม่แห่ง ComicRPG ได้มาถึงแล้ว!" "ขอต้อนรับสู่โลกแห่ง...อัล-ซาฮารัน..." - อิสระแห่งจินตนาการ...กับหลากหลายทางเดิน ตั้งแต่ฟาดฟันอริศัตรูในสนามรบ นำสันติภาพสู่ภูมิภาคด้วยกุศโลบายการเมือง
สร้างอาณาจักรส่วนตัวด้วยอำนาจแห่งเงินตรา หรือแม้แต่สวมบทบาทมัจจุราชในเงามืด!!
- โลกนี้ไม่ได้มีแค่หนึ่งกับสอง... 6 จุดหมายกับ 6 ขั้วอำนาจที่คุณคือผู้ตัดสินผู้ชนะ จักรวรรดิบรรพตยิ่งใหญ่ เหล่าพี่น้องแห่งภราดรภาพ
7ราชันย์แห่งทุ่งราบ สองศรัทธาที่แย่งชิงดินแดนแห่งผู้เป็นเจ้า หรือท้ายที่สุดโลกจะอยู่ในกำมือของผู้ชักใยจากความมืดมิด!
- ไม่ต้องรอคู่ต่อสู้!! ไม่ต้องง้อกรรมการ! คุณคือผู้กำหนดโชคชะตา กับ ระบบค่าความก้าวหน้าที่พุ่งไม่หยุด สำหรับดาวรุ่งที่ฉุดไม่อยู่!
- อะ!...อะ! อย่าเพิ่งสิ่งของเหลือใช้!! บางทีขยะพวกนี้มีค่ายิ่งกว่าทอง ถ้าอยู่กับคนที่เห็นค่าของมัน...
เมื่อราคาไอเท็มเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งแวดล้อมและกลไกตลาด
- "สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง" เมื่อลูกกระจ๊อกไม่ได้มีไว้ให้เฉือดเล่นอีกต่อไป...
ระบบกำลังพลและยูนิตนานาชนิดคือหนึ่งในกุญแจสู่ชัยชนะของคุณ
- ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล! งานของคุณไม่จำกัดว่าต้องชนทุกสิ่งที่ขวางหน้า บางทีเงินใต้โต๊ะกับคำพูดนิดหน่อยก็พอแล้ว...
- "รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง" สงครามข่าวสารเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
พยายามล้วงความลับผู้อื่นให้มากหรืออย่างน้อยๆอย่าให้ใครรู้สิ่งที่ปิดไว้ของคุณ!
- จงเตรียมพร้อมทั้งกายและใจ... ไอเท็มและสเตตัสไม่ใช่เรื่องขำๆเสียแล้ว!?
และความท้าทายอื่นๆอีกมากมาย รอคุณอยู่ที่... al-zaharan.thai-forum.net
อัล-ซาฮารัน(ผืนทรายใหญ่) เป็นโลกใบหนึ่ง ที่พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยทะเลทรายอันกว้างใหญ่ไฟศาลแต่มีทะเลสาบและโอเอซิสกระจัดกระจายไปทั่ว มีขั้วโลกเหนือและใต้เป็นจุดชุ่มน้ำและอุดมสมบูรณ์ที่สุด ครั้งหนึ่งเคยอยู่ภายใต้จักรวรรดิในตำนาน “ฮารูนด์” แต่ในกาลต่อมา จักรวรรดินั้นล่มสลายลงและได้แยกตัวออกเป็นแว่นแคว้นต่างๆ โดยในปัจจุบันเหลือเพียง 6 กลุ่มใหญ่และต่างทะเยอทะยานที่จะกำโลกใบนี้ไว้ในมือของตนอีกครั้ง... ขั้วอำนาจต่างๆ มีทั้งหมด 6 กลุ่ม เรียงตามลำดับความเข้มแข็งทางการเมือง ดังนี้
แก้ไขล่าสุดโดย Livingdead One เมื่อ Thu Jun 24, 2010 10:29 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง | |
|
| |
Livingdead One Rookie
จำนวนข้อความ : 63 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ทะเลทรายซาฮาร่า...
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Sun Mar 14, 2010 2:58 pm | |
| 1. จักรวรรดิคัลลามันด์ (Kalaman Empire)
มหาอำนาจอันดับ 1 ของโลกนี้ในปัจจุบัน เมืองหลวงมีชื่อว่า “ไอเฟ” ตั้งอยู่ในหุบเขาบริเวณขั้วโลกเหนือ แต่เดิมหุบเขาแห่งนี้เป็นที่อยู่ของชาวเขาเผ่าต่างๆ ซึ่งเป็นอิสระจากจักรวรรดิฮารูนด์ในตำนาน แต่เมื่อปฐมจักรพรรดิได้เห็นความเจริญของฮารูนด์ จึงรับศาสนาและวัฒนธรรมของอีกฝ่าย มาพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนและผนวกเผ่าอื่นๆเข้าเป็นบ้านเมืองเดียวกัน กษัตริย์องค์ต่อๆมาก็ได้พัฒนาด้านต่างๆทั้งเศรษฐกิจ การทหาร การศึกษา จนเจริญรุ่งเรืองและขยายอาณาเขตจนกว้างใหญ่ไพศาล อิทธิพลกว้างไกลทั่วโลก
แต่บัดนี้ ข้อพิพาทเรื่องชายแดนต่อสหภาพฯที่มีมาอย่างยาวนาน และความขัดแย้งทางศาสนากับ ศาสนจักรจากต่างโลก ได้ลากยักษ์ใหญ่ตนนี้เข้าสู่สงครามแห่งอำนาจอีกครั้ง
สภาพภูมิศาสตร์
รอบเมืองหลวงนั้นเป็นหุบเขา มีแม่น้ำที่เกิดจากต้นน้ำบนยอดเขาต่างๆไหลผ่านเมืองบริเวณนี้ และในหุบเขาเองก็มีแร่ธาตุที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมต่างๆจำนวนมาก จึงสามารถพูดได้ว่า เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สุดในโลกก็ว่าได้ วงรอบนอกหุบเขาถัดออกไป แต่ไม่ไกลนักเป็นทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ที่ได้รับน้ำจากหุบเขา หากพ้นจากทุ่งหญ้าแล้วจะเป็นทะเล ทรายอันอ้างว้างจนจรดชายแดนทุกด้าน ซึ่งคิดเป็นพื้นที่มากกว่าครึ่งของจักรวรรดิ
เศรษฐกิจ
สินค้าหลักของคัลลามันด์ คือ แร่โลหะต่างๆ รวมทั้งที่ยังไม่ผ่านหรือผ่านการแปรรูป แร่ธาตุวัตถุดิบต่างๆ เช่น กำมะถัน ปูนขาว เกลือสินเธาว์ เป็นต้น ยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ เครื่องมือทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ หรือแม้แต่อุปกรณ์เวทมนต์ซึ่งเป็นศาสตร์ใหม่ ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน
ผลผลิตทางการเกษตรก็ผลิตได้มาก แต่ส่งออกน้อยเนื่องจากต้องนำไป หล่อเลี้ยงประชากรซึ่งได้ชื่อว่ามีจำนวนมากที่สุดใน 6 ขั้วอำนาจ
สภาพสังคม
ปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มีพระจักรพรรดิเป็นประมุขสูงสุด แล้วกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่นต่างๆผ่านขุนนางเจ้าเมืองต่างๆ มี "แกรนด์ วิเซียร์(อัครเสนาบดี)" เป็นผู้ที่มีอำนาจรองลงมา มีอำนาจต่อทุกกระทรวงกรมยกเว้นที่กำหนดให้ขึ้นตรงต่อจักรพรรดิ
การศึกษาโดยเฉลี่ยถือว่าสูง เพราะมีค่านิยมให้ความสำคัญต่อความรู้อย่างดี โดยเฉพาะความรู้ที่ เกี่ยวกับความเป็นไปของโลก(ธรรมชาติวิทยา) ผนวกกับการสนับสนุนทางภาครัฐที่ต้องการให้ มีผู้เชี่ยวชาญในทุกแขนงมาพัฒนาประเทศ จนอาจกล่าวได้ว่าจักรวรรดิ คัลลามันด์นี้ คือ ดินแดนแห่งปราชญ์โดยแท้จริง
เมื่อครั้งแรกเริ่ม ชาวเขาในแถบนี้เชื่อในพลังของโลกและธรรมชาติ และใช้ชีวิตกลมกลืนไปกับพลังเหล่านั้น กระทั่งปฐมกษัตริย์ได้เข้ารีตศาสนาซาลามและเผยแพร่จนกลายมาเป็นศาสนาหลักของประเทศ แต่ถึงเช่นนั้น คติธรรมชาตินิยมก็ยังสอดแทรกอยู่ในการตีความพระคัมภีร์และปรัชญาต่างๆ ประชาชนมีเสรีภาพในการนับถือศาสนาตราบเท่าที่ไม่กระทบต่อความมั่นคง จึงมีลัทธินิกายต่างๆผุดขึ้นมาดังดอกเห็ด ยกเว้นศาสนาคริสต์ แม้ว่าเดิมทีจะมีการเผยแพร่โดยการสนับสนุนขององค์จักรพรรดิ แต่เมื่อสำนักผู้ดูแลวิหารศักดิ์สิทธิแห่งซาลาม กล่าวหาว่าเป็นการพยายามกลืนศาสนาจากศาสนจักร และมีการกดดันอย่างหนักจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมทั้งในและนอกจักรวรรดิ ทำให้มีราชโองการเนรเทศคนจากศาสนจักรออกไป และเป็นชนวนความขัดแย้งในปัจจุบัน
อัตตลักษณ์ทั่วไปของชาวจักรวรรดิ คือ ใจกว้าง เป็นกันเอง แต่ขาดความมีวินัย และค่อนข้างรักความสบาย
การทหารและการว่าจ้าง
แสนยานุภาพของกองทัพจักรวรรดิ พึ่งพิงวิทยาการและจำนวนเป็นหลัก โดยผลิตอาวุธคุณภาพสูงในจำนวนมากด้วยสายพานอุตสาหกรรมที่แข็งขัน และวัตถุดิบชั้นเลิศ แต่สิ่งที่น่าสะพรึ่งกลัวในกองทัพคัลลามันด์ คือ กองปืนที่สาดห่ากระสุนอันรุนแรงจากระยะไกล หน่วยจอมเวทที่เขย่าขวัญเหล่าข้าศึกที่ตกใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าด้วยความไม่รู้ และทหารราบหนัก ที่ใส่เกราะหนาราวกับปราการมีชีวิตเข้าประหัตประหารศัตรูในระยะประชิด ทำให้กล่าวได้ว่า ไม่มีกองกำลังไหนในปฐพีหาญต้านกองทัพแห่งจักรวรรดินี้ได้ ในการประทะซึ่งหน้าเลยทีเดียว
แต่อย่างไรก็ดี ไม่มีผู้ใดสมบูรณ์ไร้ทางพ่ายแม้แต่กองทัพแห่งคัลลามันด์ ด้วยความที่ให้น้ำหนักต่อทฤษฎีมากเกินไปและพิจารณาความเป็นจริงเพียงผิวเพิน ทำให้กำลังส่วนมากไม่ชำนาญต่อการรบนอกแบบ ทั้งการซุ่มโจมตี ลอบสังหาร วางกับดัก ก่อวินาศกรรม และการแทรกซึมล้วงความลับสำคัญต่างๆ หากไม่ใช่หน่วยที่มีฝึกมาเป็นพิเศษแล้ว แทบจะไม่ต่างจากชาวบ้านธรรมดาติดอาวุธเลยแม้แต่น้อย
จึงทำให้จักรวรรดิเปิดรับชาวต่างชาติต่างมิติจำนวนไม่น้อยทำหน้าที่ในการจารกรรมและลอบสังหาร หรือการคุ้มกันบุคคลสำคัญ และต่อต้านการแทรกซึม เป็นเส้นทางที่ชาวต่างถิ่นเหล่านั้น จะประสบความสำเร็จได้รวดเร็วและง่ายดาย แม้ว่าจะหมายถึงต้องอยู่แต่ในเงามืดก็ตาม
นอกเหนือจากนั้น ทางจักรวรรดิยังรับผู้เชี่ยวชาญภาคปฏิบัติที่เกี่ยวกับการผลิตต่างๆ เช่น ช่างตีเหล็ก ช่างแกะหิน ช่างกล, กองทหารที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็วหรือมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น ทหารม้า ผู้ใช้สัตว์สงคราม เป็นต้น
แก้ไขล่าสุดโดย Livingdead One เมื่อ Sun Mar 14, 2010 4:30 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง | |
|
| |
Livingdead One Rookie
จำนวนข้อความ : 63 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ทะเลทรายซาฮาร่า...
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Sun Mar 14, 2010 3:07 pm | |
| 2. สหภาพเจ้าครองแคว้น (Union Emirate)
กลุ่มอำนาจที่เข้มแข็งเป็นอันดับสอง เป็นการรวมตัวกันของเหล่า "อาเมียร์(เจ้าเมือง)" ต่างๆใน ทางตะวันตก เดิมในบริเวณแห่งนี้เคยเป็นที่ๆซึ่งจักรวรรดิในตำนานฮารูนด์นำนักโทษต่างๆโดยเฉพาะ นักโทษการเมืองมาจองจำและใช้แรงงานเยี่ยงทาส ต่อมาในสมัยที่จักรพรรดิแห่งฮารูนด์ไม่อยู่ในราชธรรม ได้ร่วมมือกับขุนนางกังฉินกดขี่ข่มเหงไพร่ฟ้าประชาชน ทำให้มีการกระด้างกระเดื่องไปทั่วจักรวรรดิและคน ที่รอดชีวิตจากการปราบปรามอย่างทารุณจำนวนมากถูกคุมตัวมาที่นี่ จนในที่สุดก็ได้ทำการจลาจลในค่าย แห่งหนึ่งและได้แยกตัวเป็นรัฐเอกราชแห่งแรกและต่อมาเมืองอื่นที่ปฏิวัติสำเร็จก็ได้เข้าร่วมเป็นสหภาพ ต่อจากนั้นผู้นำกลุ่มนักโทษต่างๆแต่ละคนได้ถูกเลือกให้เป็นเจ้าเมืองรุ่นแรกของแต่ละเมืองหรือไม่ก็นำผู้คน ไปตั้งบ้านสร้างเมืองใหม่ในจุดที่ทรัพยากรเอื้ออำนวย แล้วต่างพัฒนากันในแบบฉบับของตัวเองแต่ยังคงเป็น หนึ่งเดียวภายใต้ธง “จารึกแห่งภราดรภาพ”จนทุกวั้นนี้
ต่อมาเมื่อเมื่อเมืองดามุทและรอบๆได้แยกตัวจากสหภาพมาสถาปนาเป็นราชอาณาจักร ทำให้เกิด สงครามระหว่างสหภาพกับดามุท ที่มีศาสนจักรคอยสนับสนุนด้านกำลัง แต่ก็จบลงที่การเจรจาสันติภาพและ รองรับอธิปไตยของดามุทเมื่อจักรวรรดิคัลลามันด์ยกทัพบุกสหภาพฯจากทางเหนือ และทำสงครามที่ ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันโดยมีศาสนจักรเป็นพันธมิตร
สภาพภูมิศาสตร์
เป็นทะเลทรายเสียเกือบทั้งหมด แต่ก็มีโอเอซิสกระจายทั่วตลอด โดยเฉพาะตอนกลางของแคว้น นั้นมีทะเลสาบอุมมาที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของสหภาพฯหล่อเลี้ยงอาหารไปยังส่วนที่ห่างไกล ทางเหนือยังมีทิวเขา ต่างๆกระจัดกระจายทั่วไปซึ่งไม่ได้มีมากนัก ทางด้านสุดตะวันตกจะมีพื้นที่แห้งแล้งผืนใหญ่คั่นระหว่าง เมืองชายแดนกับตอนกลาง ทำให้การเดินทางไปยังบริเวณนั้นทำได้ลำบาก และได้ชื่อว่า เป็นจุดที่พวกโจร ทะเลทรายและพวกนอกกฎหมายอื่นๆใช้เป็นฐานที่มั่นอีกด้วย เนื่องจากยากต่อการตรวจตราโดยละเอียด
เศรษฐกิจ
ด้วยความที่ภูมิประเทศมีความหลากหลาย ทำให้สหภาพฯมีวัตถุดิบในการผลิตอุตสาหกรรมทุก ชนิด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีปริมาณมากจนสามารถส่งออกนอกประเทศได้ แต่ก็เพียงพอต่อความต้องการภายใน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยสิ่งที่มีเหลือล้น นั่นคือแรงงาน จึงทำให้สินค้าส่งออกนั้นถ้าไม่ใช่สิ่งที่ซื้อมาจาก ที่อื่นแล้วเพื่อเก็งราคาขายต่อ ก็เป็นสินค้าที่แปรรูปจากวัตถุดิบนำเข้าเพื่อเพิ่มมูลค่า หรือเป็นงานฝีมือ หลากหลายรูปแบบจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของแต่ละเมือง
รายได้รัฐส่วนใหญ่ได้จากเก็บภาษีต่างๆ โดยเฉพาะจากพ่อค้าที่เดินทางเข้ามาค้าขาย เพราะ สหภาพฯนั้นมีพรมแดนเชื่อมต่อกับแคว้นอื่นถึง 4 แคว้น จึงเป็นเสมือนจุดนัดพบของเหล่าพ่อค้าที่มาจากที่ ต่างๆ นอกจากนี้ รัฐบาลของแต่ละเมืองให้การคุ้มครองพ่อค้าเหล่านั้นอย่างดี แม้แต่พื้นที่ๆเสี่ยงสุดก็ตาม
สภาพสังคม
ปกครองโดยระบอบสาธารณรัฐ โดยมีประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกในหมู่เจ้าเมือง เจ้าเมืองแต่ละคน ก็ขึ้นดำรงตำแหน่งด้วยเงื่อนไขตามแต่ละเมืองกำหนดไว้ เช่น แข่งประลองยุทธ์ เลือกตั้ง สืบสายเลือด เป็นต้น เมื่อได้รับเลือกเป็นประมุขของประเทศ ศูนย์กลางการปกครองจะย้ายไปเมืองที่เจ้าเมืองถูกเลือกโดย อัตโนมัติหากไม่มีมติใดเป็นพิเศษ และเมื่อมีวาระใดเกี่ยวพันกับกับสถานะภาพของสหภาพฯ เจ้าเมืองต่างๆ จะเข้าประชุมเพื่อตัดสินเรื่องนั้นๆ และแต่ละเมืองจะไม่มีสิทธิก้าวก่ายเรื่องภายในของเมืองอื่นๆ
ทั้งนี้ นโยบายโดยรวมของรัฐบาลกลาง จะมีรูปแบบสังคมนิยม คือ รัฐจะออกสวัสดิการดูแล เกื้อหนุนประชาชนในทุกๆด้าน แม้แต่กลุ่มที่ตามปรกติสังคมอื่นทอดทิ้ง เช่น คนยากจน คนพิการ แม่ม่าย เด็กกำพร้า เป็นต้น
การศึกษาโดยเฉลี่ยนั้นยังไม่สูงและทั่วถึงนัก แล้วแต่นโยบายของเมืองนั้น แต่โดยหลักๆมักเป็น วิชาชีพต่างๆ ส่วนความรู้ขั้นสูงจะเน้นไปด้านการบริหารปกครอง และการทหารเพื่อป้อนบุคลากรแก่รัฐ ด้านวิทยาการและเวทมนต์ไม่ได้รับการสนใจจากส่วนบริหารมากเท่าใด จึงมีนักผู้รู้น้อยมาก
ที่นี่มีเสรีภาพในการนับถือศาสนามาก เนื่องจากนโยบายรัฐแต่ละเมืองแตกต่างกันแม้ว่าจะอยู่ใน สหภาพฯเหมือนกัน ทำให้แม้ว่าจะถูกปฏิเสธในเมืองหนึ่งก็ยังสามารถดำรงอยู่ในเมืองอื่นๆได้ตราบเท่าที่ไม่ กระเทือนต่อความมั่นคงโดยรวมของสหภาพฯ ยิ่งในปัจจุบันสหภาพฯได้ผูกมิตรกับศาสนจักร ทำให้ศาสนา คริสต์ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย แต่ประชากรส่วนใหญ่ยังคงนับถือศาสนาซาลาม แม้ว่าความสัมพันธ์ กับทางผู้ดูแลวิหารศักดิ์สิทธิจะห่างเหินจากการที่หันไปคบกับพันธมิตรต่างศาสนา
คตินิยมของที่นี่เน้นไปทางด้านสังคมและจริยธรรม เชื่อกันว่าสิ่งที่จะทำให้อาณาจักรแห่งพระผู้ เป็นเจ้าบังเกิดในโลกนี้ได้ มิได้เกิดจากผู้นำที่ทรงคุณธรรมเพียงคนเดียว แต่เกิดจากการมีร่วมแรงร่วมใจของ ทุกกลุ่มชน
อัตตลักษณ์ทั่วไปของชาวสหภาพฯ หากไม่นับรวมถึงวัฒนธรรมเฉพาะของแต่ละเมือง ก็นับเป็น ชนชาติที่มีสำนึกในเรื่องสิทธิและหน้าที่มาก แต่ละปัจเจกบุคคลล้วนมีระเบียบวินัยซึ่งไม่ได้เกิดจากอำนาจ บังคับจากเบื้องบนใดๆ แต่เกิดจากการที่ชนเหล่านั้นสร้างกฎเกณฏ์เหล่านั้นโดยพวกเขาเองด้วยสิทธิที่ตนมี และเคารพกฏเหล่านั้นในฐานะเครื่องหมายของสิทธิของผู้ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันในสังคม จึงยากที่จะเห็น การใช้อภิสิทธิ์เสียจนแม้แต่คนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดหรือคนที่ยากแค้นที่สุดก็ยังต้องหาเลี้ยงชีพเยี่ยงปุถุชน ใน ขณะเดียวกันก็ทำให้ชาวสหภาพฯแทบไม่รู้จักการประณีประนอมผ่อนปรณต่อเรื่องเล็กๆน้อยๆ จึงมักมี ปัญหาต่อชาวต่างถิ่นที่ไม่ทราบธรรมเนียมปฏิบัติ จนทำให้มักจะบอกต่อกันว่าชาวสหภาพเป็นพวกที่จู้จี้เจ้า ระเบียบ แม้ว่าจะเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียวก็ตาม
การทหารและการว่าจ้าง
หากสงครามตัดสินจากระเบียบวินัยภายในกองทัพ คงกล่าวได้ว่านอกจากกองทัพแห่งจักรวรรดิ ฮารูนด์ในตำนานแล้ว คงมิอาจหาอื่นใดเทียบกับกองทัพแห่งสหภาพ ทุกก้าวย่างเทียงตรงดุจขีดเส้นไว้ ทุก ลมหายใจเข้าออกดุจปอดเดียวกัน ทุกศาสตราฝึกฝนจนราวกับเป็นร่างกายส่วนหนึ่ง ไม่ว่าจะเดินเท้าหรือม้า ต่างเหี้ยมหาญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าอัศวินผู้ปลดตนเป็นไท “มามลุก” ที่สืบทอดวิทยายุทธ์ ต่างๆ จากเหล่าอดีตขุนศึกผู้ถูกทอดทิ้งจากความอยุติธรรมของสังคม แม้กาลเวลาจะผ่านไปนับศตวรรษ ก็ยัง เป็นที่ครั่นครามไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้อย่างสง่าผ่าเผยด้วยศาสตรานานาชนิด หรือการสังหารอย่างไร้ร่องรอย ในมุมมืดของสนามรบ ไม่มีนักรบอื่นใดเพียบพร้อมเท่าพวกเขาเสียแล้ว
แต่บัดนี้กองทัพแห่งสหภาพได้เจอศัตรูที่ยากต่อกร นั่นคือ โลกที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เมื่อโลก แห่งซาฮารันนี้ได้รู้จักกับศาสตร์พิสดารจากต่างแดน “เวทมนต์” ทำให้สมรภูมิได้เปลี่ยนแปลงไป เกราะ เหล็กที่สวมใส่ถูกเผาผลาญด้วยไฟบรรลัยกัลป์ มันซับซ้อนเกินกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าใจ และยากที่จะ เปลี่ยนแปลงเหล่านักรบผู้กล้าละทิ้งความเชื่อมั่นในศาสตรา มาหยิบจับมายากลที่ไม่ได้ให้สิ่งใดนอกจากพลัง กับความสะดวกสบายที่นำไปสู่ความอ่อนแอแห่งจิตใจ ยังไม่นับรวมถึงอาวุธประหลาดจากทิศเหนือ “ปืน” ที่ต้องใช้แร่ธาตุอันหายากและผู้ที่เชี่ยวชาญในการผลิตและกุมบังเหียนมันในสนามรบ ด้วยเหตุนี้กองทัพ แห่งสหภาพฯ จึงเป็นรองในสงครามสมัยใหม่ที่วัดกันด้วยเทคโนโลยีอย่างยิ่งยวด
ทางสหภาพฯจึงเปิดรับเหล่าจอมเวท และผู้เชี่ยวชาญในวิทยาการสมัยใหม่จำนวนมาก เพื่อที่จะ พัฒนากองทัพให้ทัดเทียมแคว้นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผลิต เช่น ช่างปืน ครูสอนเวท หรือ ฝ่ายปฏิบัติในแนว หน้าของสนามรบก็ตาม
นอกจากนี้ ทางสำนักงานคริสต์ศาสนจักรประจำสหภาพฯยังเปิดรับนักบวชใหม่ เพื่อเผยแพร่พระ ศาสนาในแคว้นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสามารถใช้เวทสายรักษาได้ อาจรับพิจารณาเป็นพิเศษ เพื่อส่งไปยัง ชายแดนต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวสหภาพฯที่ได้รับความเสียหายจากสงครามด้วย | |
|
| |
Prim_15505 Amateur
จำนวนข้อความ : 1257 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 32 ที่อยู่ : ปราสาทเสื่อมมม
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Sun Mar 14, 2010 3:54 pm | |
| หุววววววววววววว น่าสนใจมากๆเลยฮะทั่นบัง...เด๋วจะมาขอร่วมแจมด้วยคนฮะ | |
|
| |
Livingdead One Rookie
จำนวนข้อความ : 63 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ทะเลทรายซาฮาร่า...
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Sun Mar 14, 2010 7:54 pm | |
| 3. ราชอาณาจักรคีตทับบุล (Khetabul Khanate)
ทุ่งหญ้ากว้างแห่งทิศใต้นี้ เป็นบ้านเกิดของชายผู้หนึ่ง ที่เคยรวบรวมเผ่าเร่ร่อนต่างๆ ให้กลายเป็น กองทัพทหารม้าอันน่าสะพรึงและโจมตีจนจักรวรรดิฮารูนด์นั้นเกือบสิ้นสูญครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ แห่งซาฮารันนี้ ในปัจจุบันภาพความน่ากลัวเหล่านั้นหมดไป ทุกวันนี้ผู้คนรู้จักที่นี่ในฐานะดินแดนเกษตรกรรม ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยโอเอซิสที่เกิดจากตาน้ำจำนวนมากมาย เนื้อย่างหอมกรุ่นและม้าพันธุ์ดีจากชาวเร่ร่อนพื้นเมือง ทิวทัศน์อันสวยงามของทุ่งหญ้าเขียวขจีอันกว้างใหญ่ราวไม่สิ้นสุด ซึ่งขัดกับพื้นที่ส่วนมากของโลกที่เป็นทะเลทราย และเหนืออื่นใด คือ ความสงบสุขอันเกิดจากการที่ดำเนินนโยบายเป็นกลางกับความขัดแย้งระหว่างแคว้นต่างๆ จนแม้แต่พ่อค้าที่มาจากแคว้นที่ทำสงครามกันและกัน ก็สามารถค้าขายกันได้ในที่นี่ นับเป็นดินแดนที่สวรรค์ประทานลงมาให้มนุษย์โดยแท้
เมืองหลวงแห่งอาณาจักรนี้คือ เมืองตาการ์ ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านงานไม้ดีที่สุดในโลกอีกด้วย
สภาพภูมิศาสตร์
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ด้วยโอเอซิสที่มีมากกว่าแห่งอื่นๆในโลก ส่วนหนึ่งเพราะว่าพื้นที่ส่วนขั้วโลกนั้นเป็นจุดที่มีแรงดันน้ำบาดาลมากที่สุด ในขณะที่ ขั้วโลกเหนือซึ่งเป็นที่ตั้งจักรวรรดิคาลามันด์นั้นเปลือกโลกหนาจากการที่เป็นภูเขา พื้นที่ของอาณาจักรฯนี้กลับเป็นจุกที่เปลือกโลกบาง จึงมีน้ำซึมขึ้นมามากกว่าที่ไหนๆ เขตที่เป็นทะเลทรายนั้นมักจะเป็นบริเวณชายแดนซึ่งพ้นเขตเปลือกโลกบางไปแล้ว พื้นที่นอกจากนั้นก็จะเป็นป่ารอบโอเอซิสที่ชาวคีตทับบุลอนุรักษ์ไว้เพื่อป้องกันปัญหาดินทรุด และยังใช้ประโยชน์ในทางเศรษฐกิจได้ในฐานะแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์ป่าที่ไม่สามารถเลี้ยงใน ปศุสัตว์แต่สร้างรายได้ให้ชุมชนและรวมไปถึงอุตสาหกรรมไม้อันลือชื่อด้วย
เศรษฐกิจ
มิอาจปฏิเสธได้ว่า ที่นี่คือสวรรค์บนดินของเหล่าแกษตรกร ดังนั้น สิ่งที่ผลักดันแคว้นนี้สู่ความเจริญนั้น คือ ผลผลิตต่อปีทีมากกว่าแคว้นอื่นใด จนสร้างรายได้จากการส่งออกสู่ตลาดโลกในหลากหลายรูปแบบ ทั้งขายโดยตรง เช่น ถั่ว ข้าวสาลี ธัญญาหารต่างๆ หรือแปรรูปแล้ว เช่น เนื้อแดดเดียว เนยแข็ง สมุนไพร นานาชนิดที่รอการแปลงเป็นนานาเวชภัณฑ์ เป็นต้น ม้าพันธุ์ดีสามารถนำความมั่งมีมาสู่เหล่าพเนจรชนด้วย ชื่อเสียงว่าพละกำลังมากกว่าม้าทั่วไป ได้การอบรมฝึกสอนมาพร้อม จนเป็นที่นิยมในบรรดาขุนศึก ต่างแคว้นทั้งหลาย สุดท้ายอุตสาหกรรมป่าไม้ที่มีพร้อมทั้งแหล่งวัตถุดิบ และการจัดการที่ดีภายใต้การดูแลของรัฐ ทำให้มีไม้เนื้อดีส่งออกตลอดปีโดยที่ธรรมชาติไม่เสียสมดุล
ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าคีทับบุลนั้นมีทุกสิ่งให้เลือกสรร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินอ่อนและไม่มีภูเขา จึงทำให้ ขาดแคลนทรัพยากรแร่ธาตุต่างๆ โดนเฉพาะเหล็กและหินที่จำเป็นในการการทหารและความมั่นคง ด้วยเหตุนี้เอง งบประมาณจำนวนไม่น้อยจึงถูกใช้ในการจัดหาสิ่งเหล่านี้
ส่วนการเก็บภาษีนั้นแทบไม่ก่อให้เกิดรายได้ เนื่องจากประชากรมากกว่าครึ่ง เป็นชนเผ่าเร่ร่อน ดำเนินการลำบาก ส่วนที่ลงหลักปักฐานจำนวนไม่น้อยมักเป็นชาวต่างแคว้นที่ได้รับสัมปทานทำธุรกิจที่มักมี ข้อตกลงระหว่างประเทศคุ้มครองด้านภาษี และน้อยมากที่ทางการจะกดดันเนื่องจากส่งผลต่อความสัมพันธ์ทาง การทูต รัฐจึงเก็บภาษีจากพลเรือนแท้ๆในรูปแบบผลผลิตเกษตรมากกว่าตัวเงิน เพื่อหวังผลด้านกลไกราคาจาก การขายสู่ท้องตลาดในนามรัฐวิสาหกิจ ไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชนมากเกินไป
สภาพสังคม
ปกครองโดยระบอบกษัตริย์ที่มี “ข่าน” เป็นประมุข แต่ที่แตกต่างจากบ้านเมืองที่ปกครองระบอบนี้โดยทั่วไป คือ มีข่านทั้งหมด 7 ราชวงศ์ จาก 7 เผ่าใหญ่ที่เป็นเอกเทศ จนทำใด้คีตทับบุลมีสมญานามหนึ่งว่า “ ดินแดน 7 กษัตริย์ ”
และแต่ละราชวงศ์จะขึ้นปกครองกันละ 1 รัชสมัย เมื่อรัชการปัจจุบันสิ้นลง บัลลังค์จะเวียนไปยังราชวงศ์ถัด ไปตามลำดับที่ได้กำหนดไว้ในกฏมณเฑียรบาล ในขณะเดียวกัน ข่านองค์อื่นๆที่ไม่ได้ครองบัลลังค์จะมีสิทธิ์ใน การปกครองเผ่าเร่ร่อนของตนเองเต็มที่ราวกับเป็นอาณาจักรของตนเอง โดยที่ราชสำนักกลางและเผ่าอื่นๆ ไม่มีสิทธิ์แทรกแซง นโยบายกลางนั้นหากไม่มีข้อตกลงใดๆเฉพาะ ก็จะขึ้นอยู่กับข่านที่ครองรัชสมัยปัจจุบัน ชาวเร่ร่อนพื้นเมืองต่างๆนั้นจะอยู่ในโอวาทของข่านเผ่านั้นๆ ซึ่งกระจายอำนาจตามกลุ่มย่อยที่มีผู้ใหญ่บ้านดูแล ส่วนชาวเมืองนั้นจะอยู่ในอำนาจของราชสำนักกลาง
การศึกษาต่ำมาก เยาวชนแทบทั้งหมดเรียนรู้จากสังคมครอบครัวและเผ่าของตัวเองที่ล้วนเป็นญาติใน ระดับแตกต่างกันไป ความรู้ส่วนใหญ่จะเป็นความรู้ที่จำเป็นต่ออาชีพและชีวิตประจำวัน หากเป็นผู้ชาย ก็จะได้รับการสั่งสอนวิชาการทหารจากผู้ใหญ่ในเผ่าตามที่ตกลงไว้กับราชสำนักกลาง ผู้ที่มีการศึกษา ระดับมาตรฐานขึ้นไปมักจะเป็นชาวเมือง ซึ่งหลายๆครั้งชนเร่ร่อนมักเรียนรู้วิชาการใหม่ๆที่ไม่เคยมีใน เผ่าจากปัญญาชนเหล่านี้ ทั้งเพื่อนำไปพัฒนาความเป็นอยู่หรือสนองความพอใจส่วนบุคคล
เสรีภาพทางศาสนานั้นมีมากพอสมควร ขึ้นอยู่กับความเห็นชอบของข่านเผ่านั้นๆต่อศาสนา หากไม่มี การคัดค้านสมาชิกในเผ่าก็จะสามารถเลือกที่จะนับถือตามศรัทธา แต่ถ้าไม่ ก็จะมีความเสี่ยงถึงขั้นมี การลงโทษภายในอย่างรุนแรงเลยทีเดียว ศาสนาซาลามมีศาสนิกชนจำนวนมากในอาณาจักรแห่งนี้แต่ก็ มิได้เป็นศาสนาหลักของแคว้น เนื่องจากความเชื่อดั้งเดิมในการบูชาผีบรรพบุรุษก็ยังครองศรัทธาได้ ไม่แพ้ศาสนาซาลาม ส่วนศาสนาคริสต์นั้นเติบโตอย่างรวดเร็วในหมู่ชาวเมือง และชนเร่ร่อนบางส่วน
คตินิยมของที่นี่มีสองอย่าง คือ “อิสระคือทุกสิ่ง” ชาวคีททับบุลถือว่าการที่ทำทุกสิ่งได้โดยไม่มีขอบเขตใดๆ คือสิ่งที่ประเสริฐที่สุด กับ “ความซื่อสัตย์และกตัญญู คือ สมบัติของยอดคน” ซึ่งเป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวสังคมที่ ขาดระเบียบวินัยให้ยังอยู่รอดได้จนทุกวันนี้
อัตตลักษณ์ของชาวคีตทับบุลนั้นสะท้อนตามสิ่งที่พวกเขาเชื่อ โดยเฉพาะชนเร่ร่อนที่ซื่อสัตย์ต่อนายของตน ไม่ละทิ้งพวกพ้อง ยากที่จะโป้ปดมดเท็จ และกตัญญูต่อผู้มีพระคุณชนิดสละได้แม้ชีวิต แต่ชาวต่างแคว้นต่างเมือง กลับมิได้จดจำภาพเหล่านั้น ในมุมกลับกัน คนเหล่านั้นกลับจดจำความไร้มารยาทจนไม่ต่างอะไรกับคนเถื่อน ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ และที่สำคัญ อาฆาตแค้นชนิดกัดไม่ปล่อยดั่งคำกล่าวที่ว่า “บุญคุญต้องทดแทน หนี้แค้นต้องชำระ”
การทหารและการว่าจ้าง
เสียงฝีเท้าม้าอันกึกก้องที่เคยเป็นฝันร้ายของกองทัพแห่งจักรวรรดิฮารูนด์ในตำนาน ยังคงรอวันที่จะกลับมาหลอก หลอนศัตรูแห่งมาตุภูมินี้อีกครั้ง ด้วยความปราดเปรียวราวไม่มีวันไล่ได้ทันทำให้เหล่านักแม่นธนูบนหลังม้าสามารถ หลีกหนีอันตรายใดๆที่คืบคลานเข้ามาได้ ผนวกกับธนูประกอบ(Composite Bow)ที่ทำจากเขาสัตว์ เอ็น และ ยางไม้ชั้นดีพร้อมความแม่นยำที่สามารถเด็ดชีพแม้แต่ทหารม้าด้วยกันราวกับเป้านิ่ง คนโชคร้ายเหล่านั้นไม่ต่างอะไร จากสัตว์ที่ถูกล่าในทุกๆวัน หากเหยื่อเหล่านั้นซ่อนในที่กำบัง ย่อมเจอสารพัดขีปนาวุธหนัก ไม่ว่าจะเป็นศรขนาดเท่า ทวนทหารม้าจากหน้าไม้ยักษ์(Balista) ศิลาใหญ่ที่มาจากเครื่องดีดหรือเหวี่ยงหินนานาชนิด ซึ่งก่อกำเนิดจากฝีมือ ช่างไม้ชั้นครูที่ทำให้พวกมันนอกจากทรงพลังแล้ว ยังเคลื่อนย้ายและประกอบใช้งานได้ง่ายรวดเร็วกว่าของแคว้นใดๆ สารพัดสัตว์ที่ถูกนำมาใช้ในสงคราม ตั้งแต่สุนัขที่ถูกฝึกมาเพื่อล่าไปจนถึงอสรพิษที่จับใส่ไหก่อนเหวี่ยงด้วยเครื่องดีด
แต่ถึงกระนั้นชาวคีตทับบุลก็ไม่ใช่เจ้าสมรภูมิ เมื่อพวกเขาพบว่าธรรมชาติอันยิ่งใหญ่กำหนดให้พวกเข้าอยู่อย่างสงบ มากกว่าศึกสงคราม กองทัพที่ได้ชื่อว่าเสบียงอาหารไม่มีวันหมดกลับขาดแคลนยุทโธปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นในการทำศึก โดยเฉพาะโลหะต่างๆที่นำมาทำอาวุธและเครื่องป้องกันต่างๆได้ดีกว่าไม้ และหนังสัตว์ จึงทำให้การปะทะส่วนใหญ่มักอยู่ในรูป “ตีแล้วชิ่ง” มากกว่า “ฉะซึ่งๆหน้า” เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นเช่นนั้น ผู้ที่ต้องหลั่งเลือดมากที่สุดคือนักรบเหล่านั้นเอง
ด้วยเหตุนี้เองข่านต่างๆจึงเสาะหานักรบต่างแดนที่ช่ำชองในสมรภูมิที่ห่ำหั่นในระยะประชิดและมีศาตราเครื่องป้องกันต่างๆ ในครอบครองเองพร้อม ให้มากที่สุดเท่าที่หาได้ ต่อให้ไม่สามารถตอบแทนคนเหล่านั้นในรูปแบบเงินตราได้ก็ยินดี ที่จะเสนอผลประโยชน์ทุกรูปแบบให้มาสวามิภักดิ์ในท้ายที่สุด
นอกจากนี้ หากผู้ใดมีความรู้อันสามารถนำไปพัฒนาบ้านเมืองไม่ว่าจะในทางสันติหรือสงคราม ราชสำนักกลางยินดีรับ เข้าทำงานเพื่อพัฒนามาตุภูมิให้ยิ่งใหญ่ ดั่งที่เคยเขย่าโลกใบนี้ครั้งหนึ่ง | |
|
| |
YunozukaE Admin
จำนวนข้อความ : 328 วันที่เข้าบอร์ด : 01/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ตามแต่ใจจะโหยหา
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Mon Mar 15, 2010 10:22 pm | |
| โอ้ส โปรเจ็คท่านบังท่าจะสุดยอดมาก
ข้อมูลแน่นมากอ่า ....น่าสนใจจิงๆ | |
|
| |
Sakura-Kung Rookie
จำนวนข้อความ : 41 วันที่เข้าบอร์ด : 01/02/2010 อายุ : 28
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Tue Mar 16, 2010 6:20 am | |
| ยุ่งยากพางง
ไม่คอยอยาดเล่น
แต่อะช่วย
ชอบอยู่เบื่องหลาง | |
|
| |
★~『セイジ死神』~★ Junior
จำนวนข้อความ : 335 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Tue Mar 16, 2010 6:49 am | |
| จินตนาการกว้างขวางดีนะฮะ เห็นพิมพ์ออกมาซะเยอะ เลยนึกถึงตอนที่ต้องนั่งพิมพ์นิยายมือหงิกมืองอ=x= | |
|
| |
nutkey Senior
จำนวนข้อความ : 546 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 31
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Tue Mar 16, 2010 12:07 pm | |
| ของเป็นพวกโจรดีก่า
เอิ๊กกกกก | |
|
| |
rangka Junior
จำนวนข้อความ : 364 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 30 ที่อยู่ : Loli~in~her glasses !
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Tue Mar 16, 2010 12:30 pm | |
| ทะเลทรายหรอเนี่ย....แนวไปอีกแบบ แฮะ | |
|
| |
By~ne Senior
จำนวนข้อความ : 885 วันที่เข้าบอร์ด : 01/02/2010 อายุ : 28 ที่อยู่ : MCC
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Tue Jun 22, 2010 6:40 pm | |
| โห สุดยอดเลยพี่บัง...นี่แค่เกริ่นเรื่องนะเนี่ย ละเอียดยิบสุดๆไปเลย สุดยอดเลยครับ >w< ไอเดียสร้างสรรค์ล้นหลามจริงๆ สนับสนุนฮะ! ไว้ถ้ามีโอกาสจะแจมนะครับ | |
|
| |
Livingdead One Rookie
จำนวนข้อความ : 63 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ทะเลทรายซาฮาร่า...
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Thu Jun 24, 2010 10:31 pm | |
| อัพเดทโฆษณาบอร์ด พร้อมแอดเดรสและระบบคร่าวฮับ! (แต่ยังไม่ต้องสมัครนะ ขอClose-Betaระบบก่อน)
ดูได้ที่เรปสอง...
ฮัดช่าห์!!! | |
|
| |
Livingdead One Rookie
จำนวนข้อความ : 63 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ทะเลทรายซาฮาร่า...
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Sun Jun 27, 2010 10:01 pm | |
| ระบบโดยรวมของ Al-Zaharan ในบอร์ดนี้จะมีระบบ 2 ระบบ ขนานกันอยู่ คือ Faction Conflict กับ Merchant Trade Faction Conflict เป็นยังไง? ระบบนี้จะให้ผู่เล่นสวมบทบาทเป็น คนจากที่อื่นๆที่ไม่ใช่โลกของเกม แล้วทำการเลือกเข้าฝ่ายต่างๆ ที่กำลังช่วงชิงความได้เปรียบกันและกัน แต่ละฝ่ายก็จะมีนโยบาย (Policy) ต่อผู้เล่นในฝ่ายตน และท่าทีต่อฝ่ายอื่นแตกต่างกัน นโยบายนี้เองที่เป็นตัวกำหนดรูปแบบภารกิจ (Mission) ที่ปรากฏให้ผู้เล่นในฝ่ายนั้นๆเลือกที่ จะเล่น เมื่อภารกิจนั้นเสร๊จสิ้นไม่ว่าจะลุล่วงหรือล้มเหลว จะส่งผลต่อความได้เปรียบ - เสียเปรียบของฝ่ายนั้นๆ และเนื้อเรื่องทั้งหมดของเกม Merchant Trade ละ? ระบบนี้จะให้ผู้เล่นทำหน้าที่เป็นพ่อค้าคนกลาง คอยนำไอเท็ม(Item)ที่ได้มาโดยวิธีต่างๆ ทั้งแลกเปลี่ยนซื้อขายกับผู้เล่นหรือNPC ทำเควส (Quest) ต่างๆ เป็นต้น ไปขายหรือทำเควสอื่นในเมืองต่างๆ เพื่อให้ได้เงินมากขึ้นหรือไอเท็มมากกว่าเดิม ไม่ก็ดีกว่าเดิม ไอเท็มต่างๆจะมีราคาแลกเป็นเงินไม่เท่ากันในแต่ละเมือง สร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำแก่ผู้เล่น หรือนำไปสร้างไอเท็มหายาก(Rear Item)เพื่อเอาไปขายต่อหรือเก็บไว้ใช้เองก็ได้ จึงสรุปได้ว่า จุดหมายของระบบนี้คือสร้าง ความสำเร๊จในด้านทรัพย์สินของผู้เล่นนั้นนั่นเอง สำหรับรายละเอียดของระบบภายในบอร์ด มีดังนี้ : 1. ตัวละคนของผู้เล่น - แบ่งออกเป็นสองสถานะ คือ ตัวละครที่เป็นOfficer(รับราชการ) กับ ตัวละครที่เป็น Merchant(พ่อค้า) เมื่อเลือกฝ่าย
- Officer ทำได้ทั้ง Mission ของเนื้อเรื่องหลักประจำฝ่ายในห้องประชุมสงคราม (War Room) หรือ เควสและการแลกเปลี่ยนซื้อขายในห้องตลาด (Market Room) ก็ได้ แต่เฉพาะของฝ่ายตัวเองเท่านั้น ไม่สามารถเข้าห้องของฝ่ายอื่นได้
- Officer ต้องเป็นตัวละครที่ทางบอร์ดตรวจสอบแล้วว่าไม่ทำให้สมดุลของเกมเสีย จึงอนุมัติให้เข้าร่วมเกมได้
- Officer จะอนุญาติให้เริ่มต้นมีไอเท็มติดตัวหรือผู้ติดตามที่คิดขึ้นเอง (Original Item/Follower) เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ความสามารถของสิ่งติดตัวไม่จำกัดตราบเท่าที่ไม่ทำให้เกมเสียสมดุล
- Merchant จะไม่สามารถเข้า War Room หรือทำ Mission ของฝ่ายตัวเองได้เลย แต่สามารถไปยัง Market Room ของฝ่ายอื่นๆที่ไม่ได้เป็นศัตรูกับฝ่ายตนได้อิสระ
- Merchant นั้นสามารถสร้างได้เอง โดยที่ไม่ต้องผ่านการอนุมัติ แต่หากทำให้เกิดความเสียหายต่อเกมอาจมีการตักเตือนและแก้ไขภายหลัง
- ตัวละครหนึ่งสามารถมีสถานะได้เพียงอย่างเดียว พร้อมบัญชีเงินและสิ่งของสำหรับตัวละครนั้นเฉพาะหนึ่ง
- ผู้เล่นสามารถมีหลายตัวละครพร้อมบัญชี แยกอิสระต่อกันได้ แต่หากเกิดการแลกเปลี่ยนกันเองระหว่างตัวละครต้องมีความสมเหตุสมผลด้วย
2. เริ่มต้น การเข้าฝ่าย และการเดินทาง - เมื่อเริ่มต้นเกม ผู้เล่นต้องวาดอินโทรให้ตัวละเข้ามายังโลกแห่ง Al-Zaharan นี้ และถึงเมืองที่ได้ปรากฏในเนื้อเรื่องว่าเป็นเมืองเริ่มต้น(เมืองท่าข้ามมิติ)ในซีซั่นนั้นๆ
- หากผู้เล่นต้องการจะย้ายฝ่ายหรือเดินทางไปยังเมืองอื่นสำหรับMerchant ต้องวาดอินโทรเข้าเมืองนั้นๆด้วย ไม่จำกัดหน้า แต่หากมีเงื่อนไขเควสย่อมต้องสอดแทรกลงไป
- อินโทรสำหรับการย้ายฝ่ายของOfficer ให้ลงไว้ในห้องสนามรบกลาง(ในที่นี้คือ Great Desert ) ส่วนของMerchant ทั้งย้ายฝ่ายและเดินทางตามปรกติให้ลงไว้ใน Market Room ต้นทางได้เลย
- Merchant เริ่มต้นจะมีเงินติดตัวจำนวนหนึ่ง
3. นโยบาย ภารกิจ และการดำเนินเนื้อเรื่อง - นโยบาย(Policy) ของแต่ละฝ่ายนั้นจะแยกแสดงอยู่ 2 ที่ คือ ในห้องสนามรบกลาง กับ War Room ของฝ่ายนั้นๆ
- Policy ในห้องสนามรบกลาง(Great Desert )จะแสดงนโยบายของทุกฝ่าย แต่เฉพาะที่เปิดเผยได้เท่านั้น
- Policy ในห้องประชุมสงครามประจำฝ่าย จะแสดง Policy อย่างละเอียด รวมไปถึงส่วนที่เป็นความลับฝ่าย (Faction's Secret) ด้วบ
- Mission จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ต่อสู้(Fight) กับเควส (Quest)
- Fight จะเหมือนระบบVSทุกประการ ส่วนการตัดสินแล้วแต่กำหนด เช่น โหวตจากผู้อ่าน หรือ แข่งด้วยความเร็วในการบรรลุเงื่อนไข
- Quest จะตัดสินด้วยการบรรลุเงื่อนไขเท่านั้น และต้องทำโดยฝ่ายที่ได้รับเท่านั้น
- ภารกิจลับ(Secret Mission) จะถูกลงไว้ใน War Room ของฝ่ายนั้น แต่เมื่อสิ้นสุดไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ จะถูกนำออกมาลงใน Great Desert
- เมื่อทำภารกิจลุล่วง ตัวละรก็จะได้รับเงินและไอเท็มต่างๆ ขึ้นอยู่กับPolicy และพื้นเพทางสังคมของฝ่าย
- ตัวละครหนึ่งสามารถทำได้แค่ Mission เดียวในเวลาเดียวกัน แต่หากภารกิจเสร๊จสิ้นแล้วสามารถที่จะทำ Mission อื่นต่อได้จนกว่าจะหมดรอบ (Round) นั้นๆ
- การดำเนินเนื้อเรื่อง จะเดินตามคะแนนความก้าวหน้า(Progressive Score)ของแต่ละฝ่าย ซึ่งได้จากการทำ Mission ต่างๆให้ลุล่วง
- ทุกๆ Round จะมีเพดานคะแนนความก้าวหน้า (Progressive Score's Ceiling Level - PSCL) ทันทีที่มีฝ่ายหนึ่งทำ Progressive Score ได้ถึงที่กำหนด ก็จะเป็นผู้ชนะในรอบนั้นๆไป และเนื้อเรื่องก็จะดำเนินต่อไป
- ส่วน Quest ใน Market Room นั้น ไม่ถูกนับรวมในเนื้อเรื่องหลักของเกม แต่ Quest เหล่านี้จะทำให้ได้รับ Item นอกเหนือจากที่ได้จากการทำ Mission รวมไปถึง Rear Item ด้วย
4. ภารกิจสายลับ (Spy Mission) - เป็น Mission สำหรับตัวละครที่ต้องการย้ายฝ่าย และในขณะเดียวกันก็เอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายเดิมของตัวละครนั้น โดยรับรู้ Faction's Secret ของฝ่ายปลายทาง
ส่งผลต่อเนื้อเรื่องโดยรวมและ Policy ของฝ่ายเดิมของตัวละครต่อฝ่ายปลายทาง ซึ่งอาจแตกต่างจากปรกติเมื่อไม่ได้รับข้อมูลนี้
- การล้วงความลับ(Secret Investigation) สามารถทำให้ Secret Mission ของฝ่ายตรงข้ามถูกเปิดเผย และกลายเป็น Mission ทั่วไปใน Great Desert ได้ หากฝ่ายเป้าหมาย Mission เป็นผู้ส่งสายลับและต้องการขัดขวาง Mission นั้น
- Mission จะปรากฏอย่างสุ่ม ในขณะเดียวกันก็จะมีภารกิจล่าสายลับ(Spy Hunting Mission)ปรากฏอย่างสุ่มเช่นกัน
- Spy Hunting Mission จะเริ่มจากเลือกผู้ต้องสงสัยกันเองภายในฝ่าย และให้ใครคนหนึ่งทำ Mission โดยการสู้แบบVSระหว่างผู้ต้องสงสัยกับคนที่ล่าสายลับ ตัดสินด้วยผลโหวตจากผู้อ่านที่ไม่จำกัดว่าอยู่ในฝ่ายนั้นๆ
- หากผู้ต้องสงสัยแพ้และเป็นเฉลยว่าเป็นสายลับจริงโดยทีมงานที่ดูแลของฝ่ายนั้น ต้องออกจากฝ่ายนั้นๆ กลับไปอยู่ฝ่ายเดิม
5.NPC - แบ่งเป็นสองจำพวก คือ Officer NPC ที่ปรากฏใน Great Desert และ Trader NPC ใน Market Room
- Officer NPC แบ่งออกได้สองระดับหลักๆ คือ Boss กับ Unit (ทหารเลว)
- กำลังพล(Force'sStrength)เป็นค่าที่คิดจากจำนวนและความเก่งกาจของ Unit ที่ติดตามเรามา กับของNPCที่เป็นศัตรูเราในการทำภารกิจ เพื่อประมาณความแข็งแกร่งเบื้องต้นทั้งสองฝ่าย
- เมื่อค่า Force'sStrength มีความแตกต่างกันมากตามสัดส่วนที่กำหนด หากฝ่ายที่มากกว่านั้นเป็นฝ่ายผู้เล่นจำนวนหน้าในเงื่อนไขเควส(Quest Condition)จะลดลง แต่ในขณะเดียวกันหากเป็นฝ่ายตรงข้ามกับผู้เล่นที่มากกว่า จะเป็นการเพิ่มจำนวนหน้า
- Officer NPCสามารถใช้ความสามารถพิเศษ (Skill) ที่มีติดตัวแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อผู้เล่นและ Quest Condition เช่น Critical Attack, Steal เป็นต้น
- ค่า Loyalty(ความภักดี) ของ Officer NPC ระดับ Unit เป็นค่าที่ส่งผลต่อการดำเนินเรื่องผ่านวิธีการอื่นๆที่ไม่ใช่การต่อสู้ ว่าจะประสพผลมากน้อยเพียงใด เช่น ติดสินบน
- ค่า Loyalty ในประวัติของOfficer NPC ระดับ Unit เมื่อเริ่มเกมจะถูกเก็บเป็นความลับ และจะเปิดเผยเมื่อมีผู้เล่นคนใดก็ตามได้ทดลองทำตามที่กล่าวแล้ว
- วิธีการชนะโดยเลี่ยงต่อสู้ดังกล่าวไม่สามารถใช้กับQuest ที่มีOfficer NPC ระดับBossได้ และไม่สามารถใช้กับBoss ด้วยเช่นกัน
- Trader NPC คือ NPC ประจำQuestหรือดูแลร้านค้าของตนใน Market Room ของแต่ละฝ่าย ซึ่งบางส่วนได้จากการสมัครของผู้เล่นด้วย
6.ค่าสถานะ (Status) - มีทั้งหมด 6 ค่า คือ Str, Dex, Agi, Vit, Int, Luk
- STR(พละกำลัง) ส่งผลให้จำนวนหน้าในเงื่อนไขเควสของภารกิจที่ไม่มี Officer NPC ระดับBoss(Non-Boss Quest) ยกเว้น ภารกิจที่กำหนดให้ใช้ค่าอื่นๆโดยเฉพาะ
- DEX(ความชำนาญ) ส่งผลให้จำนวนหน้าในเงื่อนไขเควสของภารกิจที่มี Officer NPC ระดับBoss (Boss Quest) ยกเว้น ภารกิจที่กำหนดให้ใช้ค่าอื่นๆโดยเฉพาะ
- Vit (ความทนทาน) ส่งผลให้อายุการใช้งาน (Duration) ของ Item ประเภทเครื่องป้องกัน (Protector) เพิ่มขึ้นในสัดส่วนต่างๆ(ดูเกี่ยวกับ Item ได้ด้านล่าง)
- AGI(ความว่องไว) ส่งผลให้ Skill ของOfficer NPC ระดับ Unit ส่วนใหญ่ เช่น Critical Attack, Steal ไม่มีผลต่อตัวละครนี้ในระดับต่างๆกัน
- INT (ความฉลาด) ส่งผลให้ Force'sStrength เพิ่มขึ้นในสัดส่วนต่างๆกัน
- LUK (โชคลาภ) ส่งผลแทนค่า Status อื่นอย่างสุ่มในระดับเดียวกัน การสุ่มมีขึ้นใหม่ทุก Mission หากค่าที่สุ่มได้มีน้อยกว่าหรือเท่ากับที่ตัวละครมีอยู่แล้ว ให้ยึดค่าเดิมของตัวละคร
7.บัญชี การแลกเปลี่ยน และ Item ต่างๆ - บัญชี คือ ข้อมูลที่แจ้งถึงจำนวนเงิน และ Item ต่างๆที่ตัวละครนั้นมี จะถูกลงเป็นกระทู้ปักหมุดใน Market Room ของฝ่ายนั้นๆ
- การแลกเปลี่ยนซื้อขายมอบเงินหรือ Item ต่างๆ ให้ตั้งกระทู้ไว้ใน Market Room และทั้งสองฝ่ายตอบกระทู้ยืนยันผลการแลกเปลี่ยนในกระทู้นั้น และตอบกระทู้พร้อมลิ้งค์ของกระทู้แลกเปลี่ยนในกระทู้บัญชีของกันและกันเพื่อแจ้งความเคลื่อนไหวของบัญชี
- กระทู้แลกเปลี่ยนต่างๆจะถูกลบเมื่อมีการเริ่มซีซั่นใหม่ แต่กระทู้บัญชีจะยังคงอยู๋แต่ถูกปลดหมุดให้ตกลงไปท้ายห้องหากเจ้าของตัวละครนั้นไม่ใช้ตัวละครเดิมในซีซั่นใหม่นี้ และอาจลบบัญชีได้ถ้าเจ้าของตัวละครนั้นแจ้งความต้องการมายังทีมงานของบอร์ด
- Item แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ อาวุธ(Weapon) เครื่องป้องกัน(Protector) และ Item ทั่วไป (Common)
- Weapon จะอยู่ในบัญชีของตัวละครจนกว่าจะถูกแลกเปลี่ยน ส่วมใส่หรือถอดออกจากตัวละครได้ตามที่ผู้เล่นต้องการ ยกเว้นถูกSkill ของ NPCบางชนิด เช่น Weapon Break, Steal จนกว่าจะได้รับการแก้ไข
- Protector จะอยู่ในบัญชีของตัวละครจนกว่าจะถูกแลกเปลี่ยนและส่วมใส่หรือถอดออกจากตัวละครได้ตามที่ผู้เล่นต้องการเช่นเดียวกับอาวุธ แต่ใส่ได้แค่ชิ้นเดียวต่อตัวละครหากไม่มีข้อยกเว้นระบุไว้ ส่วนใหญ่จะมีค่าอายุการใช้งาน (Duration) แตกต่างกันไป ไม่สามารถสวมใส่ได้หาก Duration หมดหรือถูกSkill ของ NPC จนกว่าจะได้รับการซ่อมแซมหรือแก้ไข
- Common มีทั้งแบบถาวรที่ใช้ได้เรื่อยๆจนกว่าจะถูกผลของสกิลหรือแลกเปลี่ยนออกจากบัญชี และแบบใช้ครั้งเดียว ไอเท็มหลายชนิดอาจมีค่าDuration เช่น จำนวนครั้งที่ใช้ หรือจำนวนรอบที่ไอเท็มจะคงอยู่ก่อนหายไป หรือเงื่อนไขอื่นๆ
- อนุญาติให้ตัวละครมี Skill ในการสร้างหรือซ่อมแซม หรือใช้ Item ที่ไม่สามารถใช้ตามปรกติได้ แต่ต้องใช้ Item ในบัญชีตนเองเป็นเงื่อนไขอย่างเหมาะสมด้วย จึงควรสอบถามทีมงานก่อนมีการใช้สกิลนั้นๆเป็นครั้งแรก
- Skill ในการสร้าง Item นั้น จำกัด Item เป้าหมายได้ 8 ชิ้น ต่อตัวละคร และมีมูลค่าของวัตถุดิบไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของราคาขาย NPC ต่ำสุด
8.อื่นๆ - แม้ว่าคะแนนความก้าวหน้าจะรีเซ็ตใหม่ทุกๆรอบ แต่ก็มีการเก็บสถิติไว้ด้วย หากทำได้ถึงที่กำหนดไว้ จะมีเนื้อเรื่องลับที่แตกต่างไปปรกติ
- นอกจากนี้ยังมี Secret Item (ไอเท็มลับ) ที่ปรากฏอยู่ในส่วนต่างๆของเกม ทีมงานจะเปิดเผยเมื่อมีผู้ได้รับ Item นั้น
แก้ไขล่าสุดโดย Livingdead One เมื่อ Mon Jun 28, 2010 10:36 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง | |
|
| |
By~ne Senior
จำนวนข้อความ : 885 วันที่เข้าบอร์ด : 01/02/2010 อายุ : 28 ที่อยู่ : MCC
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Mon Jun 28, 2010 2:48 am | |
| โห ข้อมูลละเอียดมาก
ต้องอย่างนี้สิครับพี่บัง
ผมจะติดตามต่อไปเรื่อยๆนะฮะ เก่งจริงๆเลยครับ
TwT ผมยังคิดไม่ได้ขนาดนี้เลยนะเนี่ย
| |
|
| |
kaminari Junior
จำนวนข้อความ : 476 วันที่เข้าบอร์ด : 24/03/2010 อายุ : 30 ที่อยู่ : ที่อยู่เดียวกับอุสะ
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (6% - System Detail *๊Updated*) Sat Jul 03, 2010 12:03 am | |
| ไม่อยากพูดคับ
เข้ามาดูนึกว่า สอนสังคม 5555
ละเอียดจิงๆอะแระคับ | |
|
| |
Livingdead One Rookie
จำนวนข้อความ : 63 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ทะเลทรายซาฮาร่า...
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Sat Apr 23, 2011 1:30 am | |
| 4.นครศักดิ์สิทธิ์ฮารูนดินและพันธมิตร (Holy State of Harundin and Allies)
ครั้งหนึ่งที่เมืองเล็กๆแห่งนี้ เคยเป็นศูนย์กลางของโลกทั้งใบ และยังคงเป็นศูยน์กลางจนทุกวันนี้แม้จะในบริบทอื่น จักรวรรดิอันเป็นตำนานของซาฮารัน "ฮารูนด์" ก็มาจากนามแห่งนครนี้ที่ความยิ่งใหญ่ได้ก่อตัวขึ้นกลายเป็นเมืองหลวงในกาลนั้น แต่ยังไม่สำคัญเท่ากับความจริงทีว่า ร่างแห่งองค์พระศาสดาได้ฝังใต้มหาวิหารในนครดังกล่าว จึงทำให้นครแห่งนี้ คือศูนย์รวมแห่งศรัทธาจากทุกสารทิศ มิแบ่งแยกชนชั้นวรรณะ มีแต่ความความรักความเมตตาดังนามแห่งศาสนา " ซาลาม(สันติ)"
แต่มนุษย์ยังติดอยู่ในวังวนแห่งกิเลสตัณหา แม้จะอยู่ในที่ๆใกล้พระเป็นเจ้าเท่าใดก็มิได้ยกจิตใจให้สูงขึ้นหากใจยังใฝ่อธรรม ชนชั้นปกครองแห่งมหานครนี้ยังคงถวิลหาอำนาจเมื่อครั้งเก่าก่อน จนเกิดความขัดแย้งทั้งภายนอกและภายในฮารูนดิน ไม่ว่าจะเป็นความบาดหมางที่อาจนำไปสู่สงครามในอนาคตกับคริสตศาสนจักร จนเป็นเหตุทำให้ดามุทและสหภาพฯนั้นถูกอัปเปหิจากฝ่ายศาสนา ความไม่ลงรอยทางคำสอนกับเหล่าสารานุศิษย์แห่งอาซิสที่ในปัจจุบันกลายเป็นเหล่านักฆ่าแห่งเวิ้งทรายอีสานทิศ
หรือแม้แต่เรื่องร่ำลือที่ว่าผู้ดูแลมหาวิหารองค์ปัจจุบันมีส่วนในการสิ้นพระชนม์ขององค์ก่อน และยังกระหายอำนาจที่จะสถาปนาตนสู่“จักรพรรดิแห่งฮารูนด์” ดั่งอดีตอันรุ่งโรจน์ที่สูญสิ้นมาแล้วหลายศตวรรษอีกด้วย
สภาพภูมิศาสตร์
พื้นที่โดยรอบนั้นเป็นทะเลทรายใหญ่พร้อมโอเอซิสน้อยใหญ่นับไม่ถ้วนคล้ายสหภาพฯที่อยู่ติดกันทางตะวันตก มีโอเอซิสขนาดใหญ่ 4 แห่งตั้งอยู่ในตะวันออกเฉียงเหนือ/ใต้ และตะวันตกเฉียงเหนือ/ใต้เช่นเดียวกัน โอเอซิสทั้ง 4 นี้ เป็นแหล่งเส้นเลือดใหญ่แก่ 5 เมืองใหญ่ที่อยู่ใต้อำนาจของฮารูนด์ ได้แก่ ฮารูนดิน ซินนา ยากุด มันตา และรุมม์ โดยมีชื่อตามเมืองนั้นๆ ยกเว้นเมืองหลวงฮารูนดินที่ไม่มีโอเอซิเป็นของตัวเลงและอยู่กึ่งกลางล้อมรอบด้วยเมืองอื่นตาม 4 ทิศหลักและโอเอซิสตามที่ได้กล่าวข้างต้น
แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากสหภาพอย่างชัดเจนคือ ถนนสายหลักที่ไปสู่ที่ต่างๆทั่วอัล-ซาฮารันซึ่งสร้างไว้เมื่อครั้งจักรวรรดิฮารูนด์ฯยังรุ่งเรือง ตัดผ่านทะเลทรายสุดตะวันตกที่ทะเลสาบอุมมาของสหภาพฯ เนื่องจากในอดีตจักรพรรดิแห่งฮารูนด์องค์หนึ่งมีพระราชดำริ ที่จะย้ายไปสร้างเมืองหลวงใหม่ที่ๆเป็นเมืองอิสลี ณ ปัจจุบันเพื่อรองรับการขยายตัวของประชากรที่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ดินแดนในแถบนั้นประกาศแยกตัวเป็นเอกราชเสียก่อน ไปจนนครดามุทซึ่งเป็นที่ๆมีแหล่งน้ำเพียงพอที่จะตั้งชุมชนขนาดใหญ่ ในทิศตะวันออก ก่อนที่จะถึงทะเลทรายกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่คั่นจุดที่ตะวันออกและตะวันตกบรรจบกัน นอกจากนั้นยังมีถนน ที่ล่องลงทางใต้สู่ดินแดนแห่งคีตทับบุลที่แม้ห่างไกลแต่อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหารต่างจากภาคกลาง และขึ้นเหนือไปยัง หุบเขาคาลามันด์หลังจากผูกมิตรกับชาวเขาแถบนี้
ทั่วถนนดังกล่าวมีการสร้างหอสังเกตการณ์เพื่อสอดส่องดูแลตลอด 24 ชม. และเลียบถนนจะมีคลองชลประทานขนาดเล็กสายหนึ่งเพื่อ ลำเลียงน้ำไปยังพื้นที่ๆห่างจากโอเอซิส ผู้คนที่สัญจรตามเส้นทางสามารถใช้ทั้งสองสิ่งนี้ในการพักผ่อนระหว่างการเดินทางได้ด้วย แต่ในปัจจุบันจะพบได้เฉพาะในถนนที่ยังอยู่ในเขตแดนของพันธมิตรแห่งฮารูนด์เท่านั้น ยกเว้นสายที่ไปยังอิสลีที่ทางสหภาพเห็นถึง ประโยชน์ในด้านการค้าและการคมนาคมจึงรักษาสภาพและบริการเยี่ยงที่แล้วมาดังกล่าว
เศรษฐกิจ
คำกล่าวที่ว่าทุกเหรียญเงินในฮารูนดินมาจากศรัทธาของศาสนิกชนทั่วอัล-ซาฮารันนั้นไม่เกินความจริงแม้แต่น้อย เมื่อนักแสวงบุญจากทุกสารทิศต่างหลั่งไหลเข้ามายังมหานครนี้ สถานที่สำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ถูกรบกวน ด้วยมวลชนเหล่านี้ย่อมต้องทรุดโทรมลงเป็นธรรมดา ทางราชสำนักแห่งฮารูนด์จึงเก็บค่าบูรณะสถานที่สำคัญต่างๆขึ้น เริ่มแรกมีเพียงค่าดูแลรักษาสถานที่เท่านั้น แต่ต่อมามีการอำนวยความสะดวกต่างๆแก่เหล่านักแสวงบุญเพิ่มขึ้นตามลำดับ
ผนวกกับการสละอำนาจการเมืองทางโลกของจักรพรรดิจนเหลือเพียงตำแหน่งผู้ดูแลมหาวิหารในทางศาสนา จึงทำให้พลิกผันกลายเป็นศาสนธุรกิจเพื่อหล่อเลี้ยงสถาบันดั่งเช่นในปัจจุบัน
ผลผลิตทั้งทางเกษตรพอเพียงหล่อเลี้ยงประชากรในประเทศแต่ไม่สามารถเพาะปลูกในเชิงพานิชย์เพื่อการส่งออกได้ เนื่องจากดินไม่อุดมสมบูรณ์พอ ซ้ำร้ายหากภัยแล้งมาเยือนจนทำให้คลองชลประทานเหือดแห้ง จะก่อให้เกิดความอดอยาก ในหลายพื้นที่ ทำให้ฮารูนดินและพันธมิตรรอบข้างต้องนำเข้าอาหารจากประเทศอื่นทั้งสำรองในยามฉุกเฉินและบรรเทาเหตุที่เกิดขึ้น
อุตสาหกรรมต่างๆที่จำเป็นก็ไม่เพียงพอนักสำหรับจำนวนประชากรในปัจจุบัน ทำให้ต้องนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆมากมาย ทั้งนี้ ราชสำนักแห่งฮารูนด์ในอดีตได้จัดตั้งสมาคมพ่อค้าและอาชีพต่างๆเพื่อฝึกฝนและสร้างเครือข่ายของอาชีพนั้นๆ ก่อนส่งไปลงทุนในต่างแดน ทำให้อุตสาหกรรมหลาบอย่างแม้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของชาวฮารูนด์แต่แท้ที่จริงแล้วฐานการผลิตนั้น กระจัดกระจายไปทั่วอัล-ซาฮารัน และนำเข้ากลับสู่แผ่นดินแม่ในต้นทุนที่ต่ำกว่าที่อื่น แล้วขายในราคาตลาดก่อนที่จะคืนกำไร แก่รัฐในรูปหนี้และภาษี
แต่ในปัจจุบันหลังจากสถาบันกษัตริย์ล่มสลายเหลือเพียงสถาบันทางศาสนา สมาคมเหล่านี้ยังคงบริจาค รายได้ส่วนนึงเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในทางธุรกิจ และพึ่งพาสำนักเลขานุการของผู้ดูแลมหาวิหารในการติดต่อระหว่างสมาคมเพื่อ ขยายเครือข่ายการลงทุนต่อไป
ในขณะเดียวกันสินค้าส่งออกหลักของฮารูนด์นั้นมักเป็นงานศิลป์แบบดั้งเดิมซึ่งนิยมมากในหมู่ชนชั้นสูงนานาแคว้น ด้วยความที่เดิมเป็นอู่อารยธรรมมาแต่ช้านาน จึงทำให้มีต้นแบบงานศิลป์ชั้นครูมากมายนับไม่ถ้วย ช่างฝีมือหลายสำนัก ก็สืบทอดจากช่างหลวงในวังของจักรพรรดิ
นอกจากนี้สินค้านำเข้าหลายอย่างก็ถูกซื้อมาเพื่อเก็งกำไรขายต่อ เช่น แร่โลหะต่างๆจากคัลลามันด์ที่จะนำไปขายต่อในคีตทับบุล เป็นต้น แม้ว่าปัจจุบันจะมีสหภาพฯเป็นคู่แข่งในเวทีการค้าระหว่างประเทศแล้วก็ตาม
การเก็บภาษีดูเหมือนจะเป็นอีกหนึ่งรายได้หลักสำหรับที่นี่ อัตราภาษีสำหรับประชาชนที่นี่ค่อนข้างต่ำด้วยเหตุผลทางศาสนา แต่ทว่ามีการบริจาคโดยสมัครใจจากแรงผลักดันโฆษณาทั้งในเรื่องศาสนาและบ้านเมือง นอกจากนี้ยังมีองค์กรทางศาสนาจาก ทั่วทุกมุมโลกคอยบริจาคทุนที่เหลือจากการทำกิจกรรมภายในมายังสำนักผู้ดูแลมหาวิหารอีกด้วย
สภาพสังคม
แม้ว่าสถาบันกษัตริย์จะล่มสลายไปพร้อมกับจักรวรรดิฯ นครศักดิ์สิทธิ์ฮารูนดินและพันธมิตรยังคงมีผู้ปกครอง เพื่อคงไว้ซึ่งความมั่นคงและสงบสุขของบ้านเมือง ทั้งหมดต่างดำรงตำแหน่งเจ้านคร(อาเมียร์)เช่นกันกับคนอื่น
แต่ถึงกระนั้น เจ้านครแห่งฮารูนดินยังคงพิเศษกว่าคนอื่นแม้ในข้อตกลงระหว่างเมืองจะระบุว่าเจ้าเมืองทุกคน ต่างดำรงซึ่งอำนาจและศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน นั่นคือ เจ้านครแห่งฮารูนดินดำรงฐานะ"ผู้ดูแลมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์" ซึ่งเป็นตำแหน่งสำหรับผู้สืบทอดอำนาจทางศาสนาต่อพระศาสดาโดยชอบธรรม ในฐานะผู้เฝ้าดูความเป็นไปของโลก ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้านอกจากนี้ เจ้าครองนครอื่นๆในกลุ่มยังเป็นญาติในระดับต่างๆกัน
ดังนั้น เจ้านครแห่งฮารูนดินจึงมีบารมีครอบคลุมไปถึงเมืองอื่นหรือแม้กระทั่งทั่วอัล-ซาฮารัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สำหรับการสืบทอดตำแหน่งทั้งในทางโลกและในทางธรรมนั้นทำโดยการสืบสันติวงศ์
การศึกษาโดยเฉลี่ยถือว่าสูงกว่ามาตรฐาน ทั้งด้วยความที่เป็นอดีตนครหลวงแห่งจักรวรรดิฯและรัฐบาลเปิด กว้างในด้านนี้ จึงทำให้ความรู้ทุกแขนงมีการเรียนการสอนทั่วแคว้นตราบที่ไม่ขัดหลักศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิลปะชั้นสูง เช่น จิตรกรรม สถาปัตยกรรม นาฏศิลป์ อันเป็นต้นตำรับซึ่งนิยมในคนชั้นสูงทั่วทั้งอัล-ซาฮารัน คนต่างแคว้นจำนวนมากมายเข้ามาร่ำเรียนศิลป์เหล่านี้ ก่อนจะนำไปเผยแพร่ในบ้านเกิดตน หรือไม่เช่นนั้น ก็จะเป็น ความรู้ทางศาสนศาสตร์และเทววิทยา
ถึงจะมีแม้อิสระทางการศึกษา ไม่จำกัดถึงวิชาที่ประชาชนจะเรียนรู้ได้ แต่อิสระทางศาสนาต่ำมากหรือถึงขั้นไม่มีเลย ประชากรหากไม่ทั้งหมดก็แทบทั้งหมดนั้นนับถือศาสนาซาลามซึ่งที่แห่งนี้เป็นทั้งจุดกำเนิดและศูนย์กลาง จึงทำให้การเผยแพร่ ศาสนาลัทธิอื่นๆที่ไม่ได้การรับรองจากภาครัฐไม่สามารถทำได้ หรือแม้เพียงแค่ความเห็นเชิงลบเล็กน้อยจากผู้ดูแลมหาวิหารฯ ต่อให้เป็นศาสนาที่ได้รับอนุญาติให้เผยแพร่ ประชาชนส่วนใหญ่ก็จะแสดงคามไม่เป็นมิตรทันที
ดังนั้น เราจึงไม่เห็นการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในประเทศนี้ นับตั้งแต่ที่ศาสนจักรกับผู้ดูแลฯต่างแสดงความเป็นปรปักษ์กันและกัน ในความเป็นจริง แม้แต่ศาสนาที่ได้รับอนุญาติก็ไม่มีการเติบโตแม้แต่น้อย
อัตตลักษณ์โดยรวมของผู้คนในฮารูนดินและพันธมิตร คือ สุภาพ อ่อนโยน มารยาทดีงาม ตามฉบับชาวนครหลวงเก่าแห่งจักรวรรดิ ไม่ว่าใครก็ตามที่ขอความช่วยเหลือจากชนเหล่านั้น มักได้มากกว่าที่ขอเสมอ สะท้อนถึงคำสอนขององค์พระศาสดาที่ฝังลึกในจิตใจ ของผู้คน พวกเขามีศรัทธาแรงกล้าต่อพระเจ้าและคำสอนแห่งสันติสุข จึงทำให้หาได้ยากที่จะเห็นคนเหล่านี้ทำในสิ่งที่สังคมตีตราว่า เป็นเรื่องชั่วร้าย แม้นต้องเผชิญกับความทุกข์ยากดุจนรกบนดินก็ตาม
อย่างไรก็ดี นักบุญเดินดินเหล่านี้สามารถโหดร้ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อไหร่ก็ตามที่ใครหรือสิ่งใดถูกตราหน้าว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายจาก ผู้นำสูงสุดทางจิตวิญญาณ "ผู้ดูแลมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์" คนที่เกี่ยวข้องจะถูกปฏิบัติราวไม่ใช่คนทันที ไมตรีจิตต่างๆเปลี่ยนผันเป็น เสียงก่นด่าและความมุ่งร้ายพุ่งตรงไปสู่ผู้โชคร้ายเหล่านั้น คนเหล่านี้งมงายในบาปบุญจนบดบังสามัญสำนึกจนหลายครั้งแยกแยะ ไม่ออกระหว่างคำสอนที่แท้จริงกับเล่ห์เหลี่ยมจากชนชั้นปกครอง
นอกจากนี้ ชาวฮารูนดินและเมืองรอบข้างมักถูกมองว่าชอบยกตนข่มท่าน "โดยไม่รู้ตัว" จากประชากรส่วนอื่นๆในอัล-ซาฮารัน เพราะมักจะพูดถึงอดีตอันรุ่งโรจน์และความตั้งมั่นในศีลธรรมของตน ซึ่งเป็นจริงตามนั้นครึ่งนึง และอีกส่วนหนึ่งมาจากโฆษณา ชวนเชื่อที่ถูกปลูกฝังมาแต่เล็กจนโตในชั่วชีวิตของคนกรุงเก่า จนผู้คนจากแคว้นอื่นอดไม่ได้ที่จะนึกหมั่นไส้คนเหล่านี้
การทหารและการว่าจ้าง
"อะไรสิ่งที่ทำให้แคว้นเล็กๆนี้เคยกำโลกทั้งใบไว้ในมือ?" คือคำถามที่ผู้คนที่มาจากต่างมิติสงสัยเมื่อแรกฟังประวัติศาสตร์ อันรุ่งโรจน์แห่งจักรวรรดิในตำนาน ผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขาต่างให้คำตอบแตกต่างกันไป แต่ในแง่ของการทหารและสงครามแล้ว นอกจากความมีระเบียบวินัยอันขึ้นชื่อมาก่อนสหภาพฯแล้ว มาจากที่กองทัพแห่งจักรวรรดินั้นมีเหล่า "ผู้สดับฟัง" อยู่ในกองทัพ
คนเหล่านี้คือผู้บรรลุ "กรรณสดับ" วิชาฝึกจิตและวิญญาณของตนที่เหล่านักพรตแห่งศาสนาซาลามต่างฝึกฝนเพื่อที่จะเป็นหนึ่งเดียว กับพระผู้เป็นเจ้าของตน ผู้ใดก็ตามที่ฝึกได้ถึงระดับ "กรรณเทวราช" จักได้พลังพิเศษเฉพาะตนจากพระเป็นเจ้า ซึ่งหากพบเหล่าผู้สำเร็จ วิชากรรณในสนามรบ พวกเขาเหล่านั้นจักเป็นปีศาจที่น่ากลัวไม่แพ้จอมขมังเวทจากโลกต่างมิติ หรืออาจร้ายกาจกว่านั้น ด้วยความสามารถในการอ่านจิตที่ด้อยกว่าตน
ถึงแม้ผู้บำเพ็ญตบะเหล่านั้นจะใฝ่เดินทางสงบ แต่ส่วนใหญ่นั้นยังคงภักดีต่อสถาบัณสูงสุดของศาสนา "ผู้ดูแลมหาวิหารฯ" เมื่อใดที่เขาออกคำสั่งให้คนเหล่านั้นสู้ นักพรตเหล่านี้จักกลายเป็นทหารกล้าสู้กับศัตรูแห่งทายาทองค์พระศาสดา ยังไม่รวบไปถึงบุคลากร ที่กองทัพแห่งฮารูนดินส่งไปศึกษาวิชากรรณฯหรือความรู้อื่นเพื่อมาเป้นเขี้ยวเล็บแห่งนครหลวงเก่าอีกด้วย
แม้กองทัพแห่งฮารูนดินและพันธมิตรแข็งแกร่งราวไร้จุดอ่อนเพียงใด แต่จุดอ่อนอันใหญ่หลวงของแคว้นนี้คือความล่าช้าต่างๆที่เป็นผลมา จากความแห้งแล้งแห่งมาตุภูมิ ด้วยปริมาณน้ำที่จำกัดทำให้กองทัพแห่งนครหลวงเก่านี้มีทหารม้าและสัตว์สงครามอื่นๆน้อยกว่าแคว้นใดๆ ในทะเลทรายกว้างผืนนี้ เพื่อที่จะเก็บรักษาน้ำอันมีค่าให้เพียงพอต่อประชากรที่นับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้กำลังพลส่วนใหญ่เดินเท้าเป็นหลัก เสียเปรียญมากในสงครามที่ตัดสินกันด้วยความเร็ว
นอกจากนี้ ไม้ยังเป็นของล้ำค่ามากในดินแดนแถบนี้ ธนูหรืออาวุธยิงต่างๆที่ทำจากไม้จึงมีน้อยเนื่องจากเสียค่าใช้จ่ายมากเสียถึงขั้น สามารถนำลูกธนูเหล็กล้วนมาใช้แทนในปริมาณงบและประมาณเท่ากัน
ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ทางกองทัพจึงแก้ไขปัญหาโดยการคงกองทหารส่วนใหญ่ไว้ในดินแดนอื่นในรูปทหารรับจ้าง อาศัยบนทรัพยากร ในดินแดนที่เป็นมิตรแลกกับการทำงานทั้งจากรัฐบาลของแคว้นนั้นๆหรือใครก็ตามที่สามารถเลี้ยงดูพวกเขาได้ จะกลับสู่ประเทศแม่ต่อเมื่อ ถูกเรียกกลับหรือมีธุระเท่านั้น
นอกจากนี้ ด้วยความที่เป็นเส้นทางการค้าสำคัญและศูนย์กลางทางศาสนา ทำให้ทหารรับจ้างเหล่านี้มีการติดต่อกับกองทัพแห่งฮารูนดินตลอดเวลา ผ่านการรับจ้างคุ้มกันเหล่าพ่อค้าหรือนักแสวงบุญที่ต้องการไปยังนครหลวงเก่า ก่อนจะกลับต่างแดนโดยคาบข่าวสารข้อความ จากกองทัพและรัฐบาลไปสู่พวกพ้องที่อยู่นอกแคว้น
ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีทหารรับจากที่เป็นชาวต่างแคว้นโดยกำเนิดจำนวนมากแสวงโชคด้วยการจับกลุ่มรับงานคุ้มกันไปยังเมืองหลวงเก่า และใกล้เคียงผ่านเครือข่ายของกองทัพฮารูนดิน และหลายครั้งเองที่เป็นงานจากรัฐบาลหรือแม้กระทั่งจากตัวผู้ดูแลฯเอง ยิ่งหากมีพาหนะที่กินทรัพยากรน้อยเป็นของตัวเองก็มีโอกาศที่จะถูกว่าจ้างระยะยาวเป็นกองหนุนประจำการในเมืองหลวง อันได้ชื่อว่าผู้ปกครองร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆของโลกนี้ นอกจากนี้สำนักเลขานุการแห่งผู้ดูแลฯ ยังรับใครก็ตามที่มีความรู้สมัยใหม่ โดยเฉพาะด้านทรัพยากร เช่น จอมเวทสายธรรมชาติ วิศวกรต่างๆ เข้าทำงานส่วนบริหารอีกด้วย
ในปัจจุบันไม่อนุญาติให้ชาวต่างมิติเดินทางเข้าสู่ประเทศ เนื่องจากเหตุผลทางความมั่นคงหลังเกิดความขัดแย้งกับคริสตศาสนจักร | |
|
| |
Livingdead One Rookie
จำนวนข้อความ : 63 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ทะเลทรายซาฮาร่า...
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Wed Apr 27, 2011 9:42 pm | |
| 5. ราชอาณาจักรดามุท (Kingdom of Damut)
ในกาลก่อน เมืองเล็กๆที่ไม่ได้สลัดเสลาสำคัญอะไรแห่งนี้เป็นได้เพียงทางผ่านของพ่อค้าที่แวะพัก ก่อนที่จะข้ามผืนทรายใหญ่ที่ๆบูรพาบรรจบประจิม แต่เมื่อมีการเดินทางข้ามมิติทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะมาจากที่ไหนก้าวแรกของชาวต่างมิติที่เข้ามายังโลกแห่งซาฮารันคือที่นี่ ราชอาณาจักรดามุท อาณาจักรที่เติบโตด้วยการค้าระหว่างมิติหลังจากแยกตัวออกจากสหภาพเจ้าครองนคร
นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของสถานกงสุลและฐานทัพกองกำลังแห่งศาสนจักรประจำซาฮารันอีกด้วย นับตั้งแต่กองทัพศักดิ์สิทธิช่วยเหลือราชอาณาจักรในการประกาศเอกราชและต่อเนื่องมายังสงครามกับ จักรวรรดิคาลามันด์จากทางเหนือ จนถึงการคว่ำบาตรจากผู้ดูแลมหาวิหารศักดิ์สิทธิและกลุ่มผู้นิยมศาสนา ซาลามที่ต่อต้านศาสนาคริสต์ในปัจจุบัน
ส่วนภาคประชาชนส่วนใหญ่นอกเหนือจากชาวต่างมิติถือว่ามีฐานะดี ความเป็นอยู่ไม่แร้งแค้นนักเนื่อง จากมีจำนวนประชากรน้อยเมื่อเทียบกับขนาดของประเทศ การกระจายปัจจัยยังชีพจึงไม่มีปัญหา
สภาพภูมิศาสตร์
เป็นทะเลทรายที่มีโอเอซิสน้อยใหญ่กระจัดกระจายกันไป มีโอเอซิสขนาดใหญ่สองแห่งขนาบ เมืองหลวงดามุททางเหนือและใต้ ส่วนจุดอื่นๆไม่มีลักษณะเฉพาะทางภูมิศาสตร์แต่อย่างใด
เศรษฐกิจ
ด้วยความที่ไม่มีจุดเด่นทางด้านทรัพยากรธรรมชาติ บ้านเมืองในแถบนี้จึงอาศัยการเก็บภาษีจากพ่อค้า ที่จะเดินทางข้ามทะเลทรายใหญ่ หรือธุรกิจบริการพ่อค้าเหล่านั้น เช่น โรงเตี๊ยม เมื่อครั้งยังอยู่ใต้อาณัติของสหภาพฯ
แต่เมื่อเจ้าครองนครดามุทได้ครอบครองเทคโนโลยีการสร้างประตูมิติ เมืองแห่งนี้จึงกลายสภาพเป็นท่าข้ามมิติขนาดใหญ่ ธุรกิจการเดินทางข้ามมิติจึงถือกำเนิดขึ้นก่อนที่จะแยกตัวเป็นเอกราชไม่นานนัก ตามมาด้วยการตั้งห้างร้านบริษัท โรงงานต่างๆ ทั้งที่เป็นของชาวดามุทเองหรือของชาวต่างแคว้นต่างมิติ เพื่อป้อนสินค้าเข้าสู่ท้องตลาดไม่ว่าจะในซาฮารันหรือโลกอื่น จากวัตถุดิบที่นำเข้า
แม้มูลค่าการส่งออกจะยังสู้เจ้าตลาดอย่างสหภาพฯหรือคาลามันด์ไม่ได้ แต่รายส่วนนี้นับว่าสำคัญต่อรัฐบาล ไม่แพ้ธุรกิจท่าข้ามมิติที่ผูกขาดอยู่แม้แต่น้อย
สภาพสังคม
ภายหลังจากที่ประกาศอิสระภาพสำเร็จ เจ้าครองนครแห่งดามุทได้สถาปนาตนเป็นกษัตริย์และปกครองดินแดนในมือด้วย ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช กระจายอำนาจผ่านขุนนางเจ้าเมืองต่างๆ แต่อย่างไรก็ดี ชาวต่างมิติซึ่งนับเป็นประชากร มากกว่าครึ่งของแคว้น หากเป็นสัญชาติที่มีสนธิสัญญากฏหมายระหว่างประเทศจะอยู่ใต้อาณัติของสถานทูตของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะศาสนจักรที่มีสถานกงสุลและกองทัพประจำอยู่ที่นี่ ทำให้ข้าหลวงใหญ่ประจำซาฮารันมีอิทธิพลในราชสำนัก ไม่แพ้ขุนนางท้องถิ่นแม้แต่น้อย
การศึกษาโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมาตรฐาน เพราะพึ่งมีการปฏิรูปการศึกษาหลังจากที่ตั้งประเทศใหม่ ประชาชนท้องถิ่นจึงได้เข้าเรียน ความรู้ขั้นสูงซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเรื่องยาก อ้างอิงจากนโยบายการศึกษาหลักของสหภาพฯที่จำกัดเฉพาะด้าน มีการเปิดสอนทุกสาขา วิชาครอบคลุมทั่วประเทศ แต่ก็ยังประสบปัญหาขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา จากการที่ประชาชนพากันเข้าเรียนเกินกว่าที่ สถานศึกษาจะรองรับไหว
เสรีภาพทางศาสนามีมากถึงมากที่สุด ลัทธิศาสนาต่างๆที่ไม่ใช่ศาสนาซาลามส่วนใหญ่มักมาจากต่างมิติซึ่งมักจะมีข้อตกลงระหว่าง รัฐกับประเทศเจ้าของลัทธินั้นๆให้สนับสนุนการเผยแพร่ในราชอาณาจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสนาคริสต์ที่มีโบสถ์ประจำอยู่ทุกเมือง ไม่เช่นนั้นลัทธินิกายนั้นๆต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
ชาวดามุทพื้นเมืองขึ้นชื่อลือชาในความเป็นพ่อค้าโดยธรรมชาติ ด้วยความแล้งแค้นในอดีตทำให้ถูกปลูกฝังว่าต้องกอบโกยผลประโยชน์ รอบตัวให้ได้มากที่สุด แม้สภาพความเป็นอยู่จะดีขึ้นกว่าก่อนชนิดหลังมือเป็นหน้ามือ แต่ผู้ใหญ่ก็ยังสอนเด็กๆให้ไขว่ขว้าเพื่อตัวเองเช่นเดิม ชาวดามุทจึงขยันขันแข็งและใฝ่เรียนรู้ไม่แพ้แคว้นอื่นใดในโลกแห่งซาฮารัน ในขณะเดียวกันก็ทำให้พวกเขาไม่เป็นที่ชื่นชอบของชนชาติอื่น คนเหล่านี้พร้อมที่จะเอาเปรียบผู้อื่นได้เสมอทันทีที่สบโอกาส จนมีคำกล่าวไว้ว่า
"โจรทะเลทรายปล้นด้วยดาบ แต่โจรในดามุทปล้นด้วยตาชั่งและปากกา"
การทหารและการว่าจ้าง
หากกล่าวกันตามตรง กองทัพของราชอาณาจักรดามุทไม่มีส่วนใดน่าหวาดหวั่นในสนามรบแม้แต่น้อย กองทหารที่เหลาะแหละไร้วินัย การฝึกที่ด้อยมาตรฐาน แต่พิษสงที่แท้จริงของบ้านเมืองนี้ กลับอยู่บนกระดานของเกมการเมืองเสียมากกว่า
นับตั้งแต่ที่ดามุทเปิดประตูสู่โลกอื่นได้ รัฐบาลเล็งเห็นถึงขุมกำลังที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนั้น พวกเขาผูกมิตรกับทุกดินแด นต่างมิติที่ได้สำรวจ พร้อมยื่นผลประโยชน์ชิ้นโตให้กับคนใหญ่คนโตในโลกนั้น แลกกับการช่วยเหลือในยามศึก นานากองกำลังจากต่างโลก กลายเป็นเขี้ยวเล็บสำคัญของราชอาณาจักร โดยเฉพาะกองกำลังอัศวินจากศาสนจักรที่เพียบพร้อมด้วอาวุทยุโธปกรณ์ เกราะที่หนาหนักกว่า มาตรฐานของซาฮารันทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับนักรบเจ้าถิ่นที่จะห่ำหั่นด้วยอาวุธทั่วไป แม้จะเคลื่อนไหวลำบากภายใต้เกราะแต่การเคลื่อนพล ไม่ใช่ปัญหาเมื่อพวกเขาอยู่บนหลังม้า
ยังไม่นับไปถึงนานาอสูรสงครามจากโลกอื่น เช่น มังกร โทรล ไคมีร่า ที่พร้อมจะเข้าขย่ำศัตรูทันทีที่ปล่อยออกจากกรงหรือได้รับคำสั่งจากผู้ควบคุม ต่อให้ไม่ชนะด้วยตัวของมันเอง ก็เพียงพอกับความเสียหายและสับสนในกองทัพข้าศึกก่อนซ้ำด้วยกำลังคนที่เฝ้ารอจังหวะดังกล่าว
แต่กองทัพอัศวินดังกล่าวก็มีข้อจำกัด อย่างแรกพวกเขาไม่ใช้อาวุทไกลเนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องไร้ศักดิ์ศรี ต่างจากชาวซาฮารันที่มองเป็นเรื่องปรกติ ทำให้เมื่อใดก็ตามที่ไม่สามารถเข้าไปฟาดฟันในระยะประชิดด้วยเหตุใดก็ตาม เขาจะไม่มีโอกาศชนะเลยแม้แต่นิดเดียว และข้อที่สองพวกเขาไม่คุ้นเคย กับสภาพแวดล้อมของอัล-ซาฮารัน ต่อให้เคยชินกับสภาพภูมิประเทศและอากาศ ก็ยังไม่เคยสัมผัสวิธีการต่อสู้และความคิดในฉบับชาวผืนทรายกว้างแห่งนี้ จึงพลาดพลั้งกับกลยุทธ์และเล่ห์เหลี่ยมของคู่ต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการลอบโจมตีอย่างเงียบเชียบเป็นเรื่องปรกติในสนามรบ
ส่วนสัตว์สงครามต่างๆก็เป็นเหมือดาบสองคม พึ่งพาได้ไม่ตลอด ในหลายๆครั้งที่สัตว์ร้ายเหล่านี้แว้งกัดผู้เป็นนายได้เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ทั้งราชสำนักดามุทและกองทัพศาสนจักรจึงรับสมัครทหารรับจ้างจากที่ต่างๆรวมทั้งชาวต่างมิติเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเหล่าพรานธนู และนักแม่นปืนเพื่อมาชดเชยข้อด้อยของเหล่าอัศวินของตน ประดานักฆ่าจารชนต่างๆก็เป็นที่ต้องการไม่แพ้กันในการระวังหลังสกัดกั้นไม่ให้ อีกฝ่ายลอบกัด ส่วนบุคลากรด้านอื่นๆแม้ค่าตอบแทนจะรองลงมาแต่ก็เปิดรับเช่นกัน
แก้ไขล่าสุดโดย Livingdead One เมื่อ Wed Apr 27, 2011 11:45 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง | |
|
| |
Livingdead One Rookie
จำนวนข้อความ : 63 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ทะเลทรายซาฮาร่า...
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Wed Apr 27, 2011 10:03 pm | |
| 6.กลุ่มนักฆ่าฮัซซาซิน (The Hashasshin)
ณ เวิ้งทรายอีสานทิศอันเป็นจุดที่แห้งแล้งที่สุดในซาฮารัน ก่อนศาสนาซาลามจะถือกำเนิดขึ้นที่แห่งนี้เคยเป็นอาณาจักรโบราณ ที่ได้ชื่อว่าเจริญที่สุดในเวลานั้น ต่อมาได้ถูกจักรวรรดิฮารูนด์ฯกลืนกินจนหมดสิ้น ทิ้งไว้เพีงความชิงชังต่อโลกภายนอกในใจคนแถบนี้ ต่อมาความเครียดแค้นเหล่านั้นได้ก่อตัวเป็นปีศาจร้าย ให้กำเนิดเหล่านักฆ่าผู้เป็นที่หวาดหวั่นแม้แต่ในวังแห่งผู้ดูแลมหารวิหารฯที่ได้ ชื่อว่าปลอดภัยที่สุดในซาฮารัน เหล่านักฆ่าในความมืด "ฮัซซาซิน"
ถึงแม้จะตั้งตนเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกด้วยความแค้นในตัวผู้นำแห่งซาลามและความเชื่อที่ผิดแผก แต่ก็ไม่ได้เป็นมิตรกับชาวต่างมิติแต่อย่างใด ซ้ำร้ายกลับมองเป็นผู้รุกรานกลุ่มใหม่ที่ต้องกำจัดให้หมดไป ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะแคว้นที่ฝักใฝ่ในผู้ดูแลมหาวิหารฯหรือศาสนจักร คนพวกนี้ยังคง เป็นอันตรายที่ต้องระแวดระวังให้มากที่สุด
สภาพภูมิศาสตร์
ที่มั่นของคนกลุ่มนี้ ตั้งอยู่ในทะเลทรายกว้างทางตะวันออกเฉียงเหนือของซาฮารัน ทอดยาวไปถึงชายแดนตะวันตกของจักรวรรดิ์คาลามันด์และ เชื่อมต่อกับผืนทรายที่คั่นระหว่างภาคกลางของสหภาพกับชายแดนประจิมทิศ ที่แห่งนี้ร้อนและแห้งแล้งที่สุดในโลกแห่งอัล-ซาฮารัน ไม่มีโอเอซิส เนื่องจากแห้งเหือดไปนับศตวรรษแล้ว แต่ถึงกระนั้นคนที่นี่ยังคงดำรงชีพด้วยเทคโนโลยีที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ อันเป็นความลับสุดยอดถึงขนาด ยอมพลีชีพเพื่อไม่ให้แพร่งพรายสู่ภายนอกทีเดียว
เศรษฐกิจ
ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงทั้งในทางนโยบายและภูมิศาสตร์ ทำให้ไม่มีการค้ากับแคว้นอื่นๆในซาฮารัน เศรษฐกิจจึงเป็นแบบพึ่งพาตนเอง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายที่สุด น้ำสะอาดได้ลำเลียงจากศูนย์บัญชาการใหญ่ผ่ายท่อใต้ดิน ก่อนนำไปใช้ทั้งการเกษตรและอุปโภคบริโภค โดยที่วิธีการได้มาซึ่งน้ำของฐานแม่นั้นไม่มีใครในปราการลูกได้รับรู้ นอกจากวิธีดูแลรักษาเส้นทางลำเลียงเท่านั้น อุตสาหกรรมหลักของดินแดน ใต้อาณัติของเหล่านักฆ่าคือ การทำเหมืองใต้ดินอันน่าพิศวงที่ให้ผลผลิตได้มากกว่าการทำเหมืองทั่วไป โดยเฉพาะโลหะต่างๆที่เป็นวัสดุหลักในเครื่องมือ เครื่องใช้ส่วนใหญ่ของคนกลุ่มนี้ แร่ธาตุแปลกตาที่จำเป็นในเทคโนโลยีล้ำยุคที่สืบทอดมานาน
และว่ากันว่าช่างโลหะและงานหินงานแก้วต่างๆของคนกลุ่มนี้คือที่สุดของซาฮารัน ไม่มีแค้วนใดเทียบได้ และไม่ยอมขายให้ใครเช่นกัน
สภาพสังคม
สังคมของฮัซซาซินไม่อาศัยอยู่กันเป็นเมืองหรือหมู่บ้านอย่างแคว้นอื่น แต่อยู่บนป้อมปราการที่มีประชากรร้อยต้นๆหรือต่ำกว่านั้น กระจัดกระจายไปทั่วทะเล ทรายแถบนี้และมีฐานที่มั่นใหญ่อยู่ตอนใน แต่ละปราการจะมี "ชิอิค(ชีค หรือผู้อาวุโส)" ซึ่งแต่งตั้งโดย "ชิอิคแห่งซิงกิด" ผู้นำสูงสุดของเหล่านักฆ่า ผู้กุมอำนาจเหนือดินแดนดำมืดแห่งอีสานทิศและความลับทั้งหมดทั้งปวง
ไม่สามารถประเมินการศึกษาโดยเฉลี่ยได้ เนื่องจากไม่เคยมีใครเข้าไปตรวจสอบหรือไปแล้วไม่ได้กลับมา แต่ถ้าดูจากสิ่งของเครื่องใช้ที่ยึดได้หลังการปะทะ กับกองกำลังอื่น พบว่ามีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่มีในแคว้นอื่นๆ เช่น กล้องกลางคืน(Night vision goggle) ดังนั้น ประชากรส่วนใหญ่ต้องมีความรู้ มากพอที่จะใช้และดูแลรักษาเครื่องมือเหล่านี้เบื้องต้นเป็นอย่างน้อย ซึ่งต้องมีการเรียนการสอนอย่างเอาใจใส่เป็นพิเศษ
ไม่มีใครรู้ว่าปราการใต้อาณัติของฮัซซาซินมีเสรีภาพทางศาสนามากน้อยเพียงใด รู้แต่เพียงว่าศาสนาดั้งเดิมของคนกลุ่มนี้นับถือ "เทพบิดร" เจ้าแห่งความรู้ทั้งปวง ก่อนที่จะถูกจักรวรรดิ์ฮารูนด์ฯยึดครอง
ศาสนาซาลามถูกต่อต้านเรื่อยมาจนกระทั่งเมื่อ อาซิส อัล-มันนาฮ์ นักปราชญ์ผู้ถูกขับไล่ออกจากฝ่ายศาสนาและลูกศิษย์ได้เข้ามาสอนศาสนาซาลามในแบบฉบับของตนที่แตกต่างจากที่อื่น จนเป็นที่นับถืออย่างมากในหมู่ฮัซซาซินจนทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีอีกชื่อว่า "สารานุศิษย์แห่งอาซิส(อาซิสซีย์)" แต่ศาสนาดังเดิมก็ยังมีผู้นับถือไม่น้อย และอยู่ร่วมกันโดยไม่มีปัญหา
ส่วนศาสนาอื่นๆ โดยเฉพาะศาสนาคริสต์ ไม่มีรายงานว่าไดรับการต้อนรับจากดินแดนแถบนี้แต่อย่างใด
อัตตลักษณ์ของคนที่อาศัยในป้อมต่างบ้านเหล่านี้ คือ ใจเด็ด มีความเสียสละเพื่อส่วนรวมมากชนิดตายได้เพื่อพวกพ้องและผู้นำ เคร่งครัดในศีลธรรมไม่แพ้ ชาวฮารูนดิน ศัตรูคู่ฟ้าของพวกเขา และมีความเป็นชาตินิยมสูงกว่าคนในแคว้นใดๆในซาฮารันไม่ว่าจะมาจากใจจริงหรือถูกปลูกฝัง ด้วยเหตุนี้เอง เหล่าประชากร ใต้อาณัติแห่งนักฆ่าจึงต่อต้านคนจากโลกภายนอก ไม่ไว้ใจ ไร้ความเมตตาใดๆต่อคนที่ไม่นับเป็นพวกพ้องไม่ว่าคนเหล่านั้นจะดูเป็นมิตรเพียงใดก็ตาม
การทหารและการว่าจ้าง
"ร้ายกาจดุจปีศาจ ไร้ร่องรอยดั่งสายลม" คือคำจำกัดความเมื่อเหล่านักฆ่าลงมือ ด้วยการฝึกฝนที่ไร้ความปราณี ไม่มีคำว่าครั้งที่สอง ทำให้คนพวกนี้มีทักษะ การต่อสู้ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังไม่แพ้เหล่าอัศวินมาเมลุกชั้นแนวหน้าของสหภาพฯ เมื่อผนวกเข้ากับวิทยาการอันล้ำสมัยที่สืบทอดมาจาก "เทพบิดร" และบรรพชนแต่หนหลัง ไม่ว่าจะเป็นกล้องกลางคืน ปืนแม่เหล็กไฟฟ้า(Railgun) ใบมีดพลังพลาสม่า(Plasma cutter) ระบบม่านพรางตัว(Cloak system) พวกเขาจึงกลานเป็นปีศาจอย่างแท้จริงในสายตาแคว้นอื่น หรือแม้กระทั่งชาวต่างมิติที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งวิทยาการสมัยใหม่ก็ตาม
แม้แต่ปีศาจก็ยังมีจุดตาย คนพวกนี้แลกเปลี่ยนเขี้ยวเล็บกับเรื่องของจำนวน ด้วยข้อจำกัดทางด้านปัจจัยยังชีพ โดยเฉพาะอาหารที่ผลิตได้เป็นจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในป้อม จึงทำให้การต่อสู้เสียเปรียบด้านจำนวนคน หากต้องการคนมากต้องระดมจากป้อมอื่นและมีการเตรียมพร้อมด้านความเป็นอยู่ เราจึงเห็นนักฆ่าเหล่านี้ปฏบัติการณ์เป้นทีมเล็กๆมากกว่ากองกำลังขนาดใหญ่เหมือนแคว้นอื่นๆ ดังนั้น เมื่อเกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียสมาชิกในหน่วย สำหรับฮัซซาซินถือเป็นเรื่องใหญ่มาก
นอกจากนี้ วิทยาการส่วนใหญ่จะเป็นวิชาด้านวิศวะกรรม และวิทยาศาสตร์ประยุกต์มากกว่าทฤษฏีบริสุทธิ์เพื่อการวิจัยพัฒนาสิ่งใหม่ๆ จึงขาดความเข้าใจ วิทยาการต่างๆโดยเฉพาะกายวิภาคและแพทย์ พวกเขารู้จักวิธีการใช้สมุนไพรและแร่ธาตุในการรักษาโรคทั่วไป แต่ความเป็นอยู่ที่แออัดภายในป้อม การจัดการที่ขาดมิติด้านสุขภาพ และวิถีชีวิตที่ปั่นทอนอายุขัย ไม่ว่าจะเป็นสารพิษจากการทำเหมืองแร่ การฝึกฝนที่ฝืนเกินกำลังมนุษย์ คนเหล่านี้ต้องการหมอ หรือใครก็ตามที่สามารถต่อชีวิตให้อยู่ต่อไป รวมไปถึงคนที่สามารถแก้ไขเรื่องปากท้องและจำนวนประชากรที่ลดลงอย่างน่าใจหาย
แต่ถึงอย่างนั้น ปัญหาเหล่านี้ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ตราบที่พวกเขายังหลีกเร้นจากโลกภายนอกเข้าสู่ความมืดมิด
| |
|
| |
Livingdead One Rookie
จำนวนข้อความ : 63 วันที่เข้าบอร์ด : 02/02/2010 อายุ : 35 ที่อยู่ : ทะเลทรายซาฮาร่า...
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Wed Apr 27, 2011 10:06 pm | |
| ตอนนี้ก็ลงประวัติของแต่ละฝ่ายครบแล้ว
เหลือแค่อินโทรประจำฝ่าย กับรูปประกอบทั้งหลายแหล่
ส่วนข้อมูลเชิงลึกอื่นๆคิดว่าคงเอาไปแปะในตัวบอร์ดเลยดีกว่า
ฮัดช่าห์!!! | |
|
| |
kaminari Junior
จำนวนข้อความ : 476 วันที่เข้าบอร์ด : 24/03/2010 อายุ : 30 ที่อยู่ : ที่อยู่เดียวกับอุสะ
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Thu Apr 28, 2011 11:52 am | |
| สู้ๆครับ
มีภาพประกอบก็ดีเหมือนกันนะ | |
|
| |
-Patji- Rookie
จำนวนข้อความ : 12 วันที่เข้าบอร์ด : 08/05/2011 อายุ : 28
| เรื่อง: Re: [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) Sun May 08, 2011 7:33 pm | |
| โอะ นี่มันทู้อะไร O[ ]o!! //หลงเข้ามา และกำลังหาทางออก = ='' | |
|
| |
| [PROJECT] Al-Saharan (10% - Faction profile *Complete*) | |
|